ลุ้นคำทำนายเรื่องโลกแตก

ใกล้มาแล้วครับ 21 ธค. พศ. 2555   กับคำทำนายวันโลก  แตกตามปฏิทินชาวมายา (คตินี้มาจากชนชาติฝร่ง) และจากที่ไหนบ้างอีกก็ไม่รู้ แต่ก็มีให้ลุ้นทั้งคนหมู่หนึ่ง ที่กลัว กับคนหมู่หนึ่ง ที่หัวเราะเยาะ กับอีกหมู่หนึ่งที่ห่วงใยด้วยใจจริงว่าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น  อาจจะทำให้ตั้งอยู่ในความประมาทได้




 และก็อย่าลืมลุ้นคืน 31 ธค. 2555 ด้วยนะครับ   (คตินี้มาจากคนไทย)จากคำทำนายของเด็กชายปลาบู่ (ปีที่แล้วก็ลุ้นกันแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจตีความอะไรผิดพลาดก็ได้ คนไม่น้อยมารอลุ้นปีนี้อีกทีนึง) แต่อย่าลืมนะครับว่าไม่ว่าโลกจะแตกหรือไม่  หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้น  โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่เสี่ยงภัย  ฯลฯ  อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินยามเกิดเหตุเภทภัย ไว้ให้ พร้อมทั้ง อุทกภัย วาตภัย  และ



สารพัดภัย พิบัติ  เช่นไฟฉาย นกหวีด ตะเกียง น้ำดื่ม เกลือ ด่างทับทิม  หรือจะเอาวิทยุคลื่นสั้นวีอาร์ไว้บ้างก็ได้  ส่วนตัวผมอยากรู้จริงใครว่าหนอที่เป็นคนคนแรกที่พูดที่เขียนเรื่องโลกแตกเอาไว้ และ  คำว่าโลกนั้นความหมายเป็นอย่างไรแน่ เพราะบางที คติโบราณคำว่าโลกของคนสมัยก่อน กับสมัยนี้ ความหมายคนละอย่างกัน จะเอามาตีความตามแบบสมัยนี้อย่างเดียวทั้งหมดบางทีอาจจะเป็นคนละเรื่องก็ได้  เพราะยังมีคติ ของโลกแบบของมุสลิม  ของยิว ของอินเดีย ของชนชาติอื่นๆที่ไม่เป็นที่รู้จักอีกเยอะ
                                                                                            bananabrn  30 nov 2012

                           

    รวบรวมประวัติศาสตร์ "วันโลกจะแตก"



ข้างล่างนี้รวบรวมโดย Mr.Terran จากเว็ปพันทิป

ค.ศ.33-150 ชาวคริสต์ยุคแรกกลุ้มใจว่าโลกจะแตกสลาย

ค.ศ.992-1000 พระชาวยุโรปคิดว่า โลกจะวินาศในปี ค.ศ.1000 ผู้คนจึงหวาดกลัวกันใหญ่

ค.ศ.1001 ปรากฏว่าโลกยังไม่แตก พระชาวฝรั่งเศสจึงบอกว่า ภัยพิบัติจะเลื่อนไปเกิดปี ค.ศ.1033

ค.ศ.1033 โลกยังหมุนต่อไป

ค.ศ.1186 (พ.ศ.1729)เกิดดาวเคราะห์เรียงตัวกัน ชาวยุโรปนึกว่าโลกจะล่มสลาย

ค. ศ.1346-1418 (พ.ศ.1889-1961) เกิดโรคกาฬโรคขึ้น ประชากร 1 ใน 3 ของยุโรปตาย และคร่าชีวิตประชากรครึ่งประเทศในอังกฤษ แต่มนุษย์โลกก็เพิ่มจํานวนกลับคืนมาตามเดิม

ค.ศ.1501 (พ.ศ.2044) คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบรหัสไบเบิ้ล เรียกมันว่า"ไบเบิ้ลโค้ด" ได้ผลทํานายออกมาว่า โลกจะแตกใน ปีค.ศ.1656 (พ.ศ.2199)

ค.ศ.1656 (พ.ศ.2199) คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ทํานายผิด

ค.ศ. 1844 วิลเลียม มิลเลอร์ บอกสาวก 50,000 คนว่า โลกจะพินาศในปีนี้แล้ว แต่ก็ผิดหวัง

ค.ศ.1848 วิลเลียมบอกว่า มันจะเลื่อนมาเกิดปีนี้ต่างหาก .. แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วิลเลียมจึงบอกว่า มันเลื่อนไปเกิดปีหน้า

ค.ศ.1849 วิลเลียมไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป

ค.ศ.1910 ดาวหางฮัลเล่ห์ปรากฏ ผู้คนต่างหวาดกลัวว่าจะเกิดวันสิ้นโลก

ค. ศ.1925 แม่ชี โรเบิร์ต ไรท์บอกว่า พระเจ้ามาบอกว่า โลกจะพินาศในปีนี้ เผอิญปีนั้น เกิดโรคระบาด แผ่นดินไหวถี่ผิดปกติ ภาวะบ้านเมืองอึมครึม คนเลยเชื่อใหญ่ บางคนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร บางคนขายบ้าน ขายที่นา พอถึงวันที่แม่ชีว่าจะเกิด แม่ชีไรท์พาลูกศิษย์หลบเข้าป่าจําศีลภาวนา แต่แล้วก็ผิดพลาดอีก..

ค.ศ.1945 ชาร์ล ลอง นักฟิสิกส์อังกฤษ บอกว่า โลกจะพินาศ ซึ่งในระยะเดียวกันนั้น บังเอิญเกิดดาวหางบ่อยๆ เกิดสุริยคราสและจันทราคราส บ่อยๆ น้ำท่วมเป็นประจํา แผ่นดินไหวถี่ผิดปกติ จึงเป็นเหตุผลที่ชาวโลกควรเชื่อ แต่ก็ผิดพลาดหนักเข้าไปอีก

ค.ศ.1975 กลุ่มชาวคริสต์ออกมาทํานายว่าปีนี้โลกจะพินาศ หลังจากทายผิดติดต่อกันมาแล้ว 10 ปี

ค. ศ.1996 ไมเคิล ดรอสนินท์และเอลิยา ริปป์ ตีความไบเบิ้ลโค้ด แล้วบอกว่า จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3ในวันที่ 25 กรกฏาคม ...แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไมเคิลและริปป์จึงบอกว่า สงครามโลกครั้งที่ 3และภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นแน่ แต่เลื่อนไปในปีค.ศ.1999

ค.ศ.1999 นอสตราดามุส บอกว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3... นอกจากนอสตราดามุสแล้ว ยังมีไมเคิลกับริปป์ที่หน้าแหกเป็นเพื่อนอีกตั้งหาก

ค.ศ.2000 ดาวเคราะห์เรียงตัวกันในวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้คนบนโลกเชื่อว่าโลกจะแตก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ค.ศ.2003 กลุ่มที่เชื่อเซคาริยาห์อ้างว่าดาวนิบิรุจะโคจรมาใกล้โลก ก่อเกิดภัยพิบัติ ที่ญี่ปุ่นมีกลุ่มคนพากันเข้าป่า เตรียมเสบียง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กันยายน 2005 - สิงหาคม 2006 กลุ่มไบเบิ้ลโค้ดเชื่อว่า จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามที่คัมภีร์ทํานายว่าจะเกิดใน สิงหาคม 2006 แต่ก็ผิดอีก..อ้างอิงบางส่วนจาก หนังสือ The World and I

ปล. สักวันมันคงจริงสมใจอยากแหละนะ ผมเอาใจช่วย

อ้างอิงจาก www.pantip.com

link : http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009./07/X8033862/X8033862.html
จาก.http://www.gracezone.org/index.php/-2012/562-end-day-history
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อต้นปี 2554 กลุ่มคริสเตียน ‘แฟมิลี่ เรดิโอ’ ซึ่งเป็นกลุ่มศาสนาในสหรัฐส่งสมาชิกของกลุ่มเข้ามาในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ กระจายตัวไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อแจกใบปลิวที่มีข้อความประกาศเตือนให้ชาวฟิลิปปินส์เตรียมเผชิญกับคำ พิพากษาวันสิ้นโลก หรือ จัสต์เมนต์เดย์ ตามคำทำนายของนายแฮโรลด์ แคมปิ้ง ประธานของกลุ่ม แฟมิลี่ เรดิโด ที่คาดการณ์ว่า วันสิ้นโลกจะอุบัติขึ้นเมื่อพระอาทิตย์อัสดงในตอนเย็นของวันที่ 21 พ.ค. 2554 นี้


นาย แคมปิ้ง บอกว่า การคาดการณ์ของเขาใช้หลักการคำนวณทางคณิตศาสตร์ และ การถอดรหัสเรื่องน้ำท่วมโลกในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล แม้ว่าก่อนหน้าแคมปิ้ง จะเคยทำนายพลาด เมื่อฟันธงว่าโลกจะถึงกาลสิ้นสุดเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2537 แต่เขายืนยันว่า คำทำนายวันสิ้นโลกในวันที่ 21 พ.ค.นี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนทั้งนี้สมาชิกของกลุ่มแฟมิลี่ เรดิโอ ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครจากสหรัฐฯที่ทิ้งงาน และบางคนถึงกับทิ้งครอบครัวออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อแจ้งเตือนวันสิ้นโลก แล้วก็ผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมีคนคิดฟ้องร้องกันขึ้น



ส่วนของไทยก็มีคำทำนายแผ่นดินไหว(เตือนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย) ดูกันหน่อยครับข้างล่าง ... ลอกจากเวป
http://www.truth4thai.org/node/528 ไม่เกิดก็ไม่เป็นไร ถือว่าดีไป จะไม่ให้เตือนก็ไม่ได้ เพราะเป็นห่วง

คำเตือนภัยพิบัติจาก สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด

สำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด หมู่ที่ ๙
ตำบลทุ่งระยะ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

๑๖ มีนาคม ๒๕๕๔

เรื่อง แจ้งเตือนเตรียมรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ซึนามิ
เจริญ พร ท่านผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

ระลอกที่ ๑ ช่วงวันที่ ๔ - ๑๕ มิถุนายน ๕๔ โดยจะเกิดแผ่นดินไหวแถบทะเลอันดามันประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ ๕ ทุ่มและเกิดคลื่นยักษ์ซึนามิที่มี ความรุนแรงมากกว่าปี ๔๗

ระลอก ที่ ๒ จะเกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์ครั้ง แรกประมาณ ๑ เดือน โดยแหล่งข่าวบอกว่า เก็บกู้ความเสียหายยังไม่ทันเสร็จระลอกใหม่ก็เกิดขึ้นอีก *** เหตุการณ์ จะรุนแรงกว่าระลอกแรก โดยมีความรุนแรงมากที่สุดในสามระลอก จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งสองฝั่งคือทั้งอ่าวไทยและอันดามัน

ระลอก ที่ ๓ จะเกิดขึ้นระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ มี ความรุนแรงน้อยกว่าระลอกที่สอง ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน

 รายละเอียดเแพาะเรื่องนี้ดูที่ http://108dee.tht.in/forcastworld.html
(ต้องขออภัยครับ เวป 108 dee.tht.in ผมไม่ได้จ่ายเงิน ถูกปิดเสียแล้วครับ 27 สค. 57 )

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถอดรหัสภัยพิบัติ

ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤติเป็นคำเตือน  17 ธค. 2555

จากเฟสบุ๊คคุณ adithep.wetwirounwong
มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลจัดงานเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการเกิดภัยพิบัติตามกระแสสังคมที่ตื่นกลัว วันสิ้นโลก ในวันที่ 21ธันวาคมนี้


โดย ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรไฟฟ้า องค์การนาซ่า ระบุว่าเหตุการณ์โลกสิ้นสลายจะยังไม่เกิดขึ้น แต่ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า จะมีความรุนแรงมาก จากการได้รับผลกระทบคลื่นรังสีดวงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบัน ชั้นบรรยากาศที่เป็นเกราะคุ้มกันโลก ลอยต่ำสุดในรอบ 50 ปี

เวทีเสวนา ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤติให้เป็นคำเตือน มีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญขึ้นบรรยายให้ความรู้ที่เท่าทันการเตรียมรับมือภัยพิบัติ พร้อมทั้งแจงเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ถึงปัจจัยการเกิดภัยพิบัติในวันสิ้นโลกตามที่เป็นกระแสสังคมในขณะนี้ โดยดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรไฟฟ้า นักวิทยาศาสตร์ไทยที่ทำงานใน องค์การนาซา กล่าวว่า ปัจจัยที่จะทำให้โลกสลายมี 2ปัจจัย คือ ปัจจัยภายนอกจากปรากฎการณ์พายุสุริยะ และปัจจัยภายในโลกจากการทำลายชั้นบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมจากน้ำมือมนุษย์ ซึ่งเหตุการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขี้นในวันที่ 21ธันวาคม นี้ เครื่องมือและหน่วยงานวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดภัยพิบัติชนิดใด ซึ่งถ้าหากจะเกิดจริง โดยหลักจะมีลางบอกเหตุ คือเกิดภัยธรรมชาติหลายแห่งที่มีความเชื่อมโยงกัน ดังนั้นเหตุการณ์โลกสิ้นสลายจะยังไม่เกิดขึ้น แต่คาดว่าภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในปี 2556 โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะมีความรุนแรงขึ้นเพราะการได้รับผลกระทบจากคลื่นรังสีดวงอาทิตย์จะทำให้สนามแม่เหล็กแปรปรวนได้ง่าย เพราะปัจจุบัน ชั้นบรรยากาศที่เป็นเกราะคุ้มกันโลก ลอยต่ำสุดในรอบ 50 ปี ซึ่งเป็นช่วงสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอที่สุด




ดังนั้นควรจะหมั่นเฝ้าสังเกตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการกระทบคลื่นรังสีพายุสุริยะ ระหว่างวันที่ 20-25 ธันวาคม ซึ่งในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ทางนาซาจะสามารถคำนวนได้ว่า ทิศทางคลื่นรังสีของพายุสุริยะจะมากระทบต่อโลกในทิศทางใด จะสามารถคาดการณ์ถึงประเภทและความรุนแรงของภัยพิบัติได้ โดยหากรังสีพายุสุริยะกระทบโลกโดยตรง จะเกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศ แต่ถ้าหากเฉียดกับโลกบางส่วน จะเกิดภูเขาไฟระเบิด และแผ่นดินไหว ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนรู้จักสังเกตุและคาดคะเนภัยธรรมชาติให้เป็น ไม่ใช่ตื่นตระหนก จนลืมวิธีหรือเรียนรู้ที่จะอยู่กับภัยธรรมชาติ

ด้านนายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่าวันที่21 ธันวาคม นี้ว่าขณะนี้ยังไม่มีรายงานใดที่บ่งบอกว่าเป็นภัยพิบัติก่อให้เกิดเหตุสิ้นโลก แต่หากเกิดแผ่นดินไหว ก็จะเป็นภัยพิบัติไม่สามารถพยากรณ์ได้ ทั้งนี้ศักยภาพการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา สามารถพยากรณ์ได้เพียงระดับจังหวัดเท่านั้น โดยการพยากรณ์ใน 4ชั่วโมงความถูกต้องประมาณร้อยละ79 แต่ความต้องการของประชาชน ต้องการให้พยากรณ์ได้ในระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน หรือในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งทางกรมอุตุฯต้องมีการปรับปรุงอุปกรณ์ให้ดี เพื่อให้มีความแม่นยำกว่าเดิม รัฐบาลจึงควรจะสนับสนุนงบประมาณในการติดตั้งเครือข่ายตรวจวัดภาพอากาศให้ครอบคลุม และต้องให้ความสำคัญกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลต้นน้ำของการเกิดภัยพิบัติต่างๆ

ทั้งนี้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติ แสดงความเห็นสอดคล้องกันว่า ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้จะรุนแรงขึ้น แต่ไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้โลกสิ้นสลายตามกระแสข่าวลือ
http://news.voicetv.co.th/thailand/58533.html