ยามตกฟากวันพุธ


 ยามวันอาทิตย์   ยามวันจันทร์      ยามวันอังคาร       ยามวันพฤหัสบ่ดี      ยามวันศุกร์        ยามวันเสาร์

  ยามวันพุธ

  ยามวันพุธกลางวัน
             ยาม ๑ ( ๐๖.๐๐ - ๐๗.๓๐ น.)
วันพุธยามเช้ากล่าวทำนอง        เมื่อช้างผ่องเผือกผู้  ดูโสภา         นามฉัทท์ทันต์จากสวรรค์ลงมาเกิด     สวยประเสริฐน่ารักเป็นหนักหนา    อยู่ในป่าหิมพานต์เนิ่นนานมา      ทั้งงวงงางอนงามอร่ามครัน         ใครเกิดทันยามพุธสุดสำอางค์       ทั้งรูปร่างสวยจริงทุกสิ่งสรร            แต่การงานต้องทำเป็นสำคัญ       พึ่งพงศ์พันธ์แสนยากลำบากจริง

          ยาม ๒ ( ๐๗.๓๐ - ๐๙.๐๐ น.)
ในยามจันทร์นั้นว่าพญาช้าง     ได้หมู่นางแห่ห้อมล้อมไสว      ใครเกิดทันยามจัรทร์อย่าพรั่นใจ     จะปลอดภัยเพิ่มพูลสมบูรณ์นัก          ทั้งสมบัติวงศ์ศามหาสาร         บริวารพร้อมหมดทั้งยศศักดิ์     ภรรยานารีเป็นที่รัก        จะคึกคักโภคาสถาพร

         ยาม ๓ ( ๐๙.๐๐ - ๑๐.๓๐ น.)
ยามเสารีเทวีสุภัทรา         คิดขัดเคืองแก่ฉัททันท์ไม่ผันผ่อน           หาว่าผัวแกล้งทำระยำบอน   เกิดเคืองแค่นแค้นค่ากับสามี          ใครตกฟากยามเสาร์เนาวันพุธ       จะโศกสุดเศร้าหมองไม่ผ่องศรี   ถ้าผู้หญิงว่าเป็นกาลกิณี     มักราคีอึ้งเครียดเกลียดเพื่อนกัน
         
ยาม ๔  ( ๑๐.๓๐ - ๑๒.๐๐ )
ถึงยามครูสุภัทราพยาบาท              คิดอาฆาตคิดฆ่าให้ผัวอาสัญ       ใครตกฟากจากท้องต้องยามนั้น      ใจฉกรรจ์โกงฉ้อล่อรำตาญ

           ยาม ๕ ( ๑๒.๐๐ - ๑๓.๓๐ )
ยามภูมมะสุภัทรามาพักตัว          เป็นทุกข์นักร้อนเริงดังเพลิงผลาญ       ไม่สมคิดจิตมั่นในสันดาน   ก็ถึงการมรณาชีวาวาย     ใครเกิดถูกยามนี้มีแต่ถอย       อายุน้อยชีวิตมักปลิดหาย
               
        ยาม ๖ ( ๑๓.๓๐ - ๑๕.๐๐ )
ยามสุริยะนางคชาชีวาวาย          จุติในครรภ์พระราชินี          ใครจากกท้องถูกต้องยามอาทิตย์     จะเรืองฤทธิ์บริบูรณ์พูลศักดิ์ศรี      สกูลสูงสมบัติสวัสดี                จะเป็นที่พึ่งพาประชาชน

        ยาม ๗ ( ๑๕.๐๐ - ๑๖.๓๐ )
ยามศุกระธิดามหากษัตริย์      คิดประวัติถึงงาช้างกลางไพรสนท์       จึงจัดใช้นายโสอุดรคน     ให้รีบรนไปเอางาพระยาฉัทท์ทัณท์       ใครตกฟากยามนี้จะดีมาก     ไม่ตกยากอาภัพถึงคับขัน       ปรารถนาสิ่งใดได้สิ่งนั้น      มีผู้ปันแบ่งให้ไม่ขัดใจ

          ยาม ๘  ( ๑๖.๓๐ -๑๘.๐๐ )
ยามพุทธะสายัณห์ตะวันลับ        พรานพบกับพญาช้างกลางดงใหญ่       ถอดงาให้โสอุดรไม่ร้อนใจ ใครเกิดมายามนี้ช่างดีจริง    โหรทำนายว่าได้มาซึ่งสินทรัพย์     ทั้งช้างม้าวััวควายทาสชายหญิง     จบคำทำนายวันพุธสุดดีจริง    ยังอีกสิ่งวันพฤหัสจัดต่อไป

           ยามวันพุธกลางคืน
         
         ยาม ๑     (๑๘.๐๐ - ๑๙.๓๐ )
ยามพุทโธพอค่ำย่ำตะวัน   พระลอนั้นพลัดพรากจากไอศูรย์      ตามไก่ทองเข้าป่าต้องอาดูร    พลัดตระกูลวงศ์ศาเอกากาย     ใครตกฟากยามค่ำย่ำวันพุธ   จะโศกสุดเศร้าใจไปไกลหลาย       จากบ้านเกิดเมืองนอนร้อนระคาย     ไปพักกายที่อื่นจึงชื่นใจ

          ยาม ๒  (๑๙. ๓๐ - ๒๑.๐๐ )
ยามระวิพระองค์ผู้ทรงศร พบบังอรขนิษฐากลางป่าใหญ่   ได้ทรงพระนามเจริญศรีที่วิไล ได้ปราศรัยรับผูกพันจำนรรจา      ใครจากท้องต้องตามยามที่สอง    จะแคล่วคล่องคลายทุกข์เป็นสุขขา   เป็นเจ้าชู้อยู่ที่คำเจรจา    หญิงจะมาร่วมรักสมัครกัน

         ยาม ๓ (๒๑.๐๐ - ๒๒. ๓๐ )
ยามชีโวขนิษฐาพาคู่รัก    ไปพบพักตร์พวกพ้องของจอมขวัญ     ทั้งโภชนาอาหารสำราญครัน   เลี้ยงทรงธรรม์ในสถานสำราญใจ   ใครเกิดยามพฤหัสดัดใกล้ดึก    ได้สำนึกลาภังดังน้ำไหล    มีแก้วแหวนเงินทองเนืองนองไป   เพื่อนใกล้ไกลมาสมานการไมตรี

         ยาม ๔ (๒๒.๓๐ - ๒๔.๐๐ )
ยามศศินี้เวลาดึกสงัดหน่อกษัตริย์ได้ครองสองโฉมศรี    รักนางเอื่อยที่สองปองเทวี     เจริญศรีฝ่ายขวาไม่ถาวร     ใครเกิดมายามนี้ไม่ลำบาก     มีเมียมากเคียงคู่ร่วมเคียงหมอน     แต่มักห่วงหวงหึงตบึงตะบอน มักเดือดร้อนเพราะเมียเกือบเสียการ

        ยาม ๕ ( ๐๐.๐๐ - ๐๑.๓๐ )
ยามศุโกรมารดาของพระลอ พระทัยท้อคิดถึงบุตรสุดสงสาร ต้องซูบผอมตรอมใจอาลัยลาญ ไม่พบพานลูกยาอุราตรม    ใครเกิดยามศุกรเป็นทุกข์ทับ    ต้องตกอับแรงนักหมักหมองหมม   มีลูกเต้าหญิงชายไม่ได้ชม ต้องเกรียมกรมในจิตคิดไม่วาย

     ยาม ๖ ( ๐๑.๓๐ - ๐๓.๐๐)
ยามภุมโมภุมมีหนีกลับนคร แต่อาวรณ์ไม่สมอารมย์หมาย ไปต้องคุณปู่เจ้าสมิงพราย พระทัยหายหลงเพ้อละเมอเฟือน    ใครคลอดจากครรภ์มายามนี้   เสียสติเผลอเลอะเทอะเถื่อน   จะพูดจาสารพัดมักฟั่นเฟือน พวกพ้องเพื่อนเกลียดชังหมดทั้งปวง

      ยาม ๗  ( ๐๓.๐๐ - ๐๔. ๓๐ )
ยามเสารามาประสบพบครูบา ร่ายคาถาให้พระลอพอหายห่วง กลับมาหาเนื้อนุ่มสองพุ่มพวง ไม่งงง่วงเรื่องเหงาบรรเทาคลาย     แม้นหญิงชายได้กำเนิดเกิดยามนี้     ปัญญามีกว่าชะนังสั้นทั้งหลาย   แต่จะต้องพาตนทุรนทุราย ให้สบายปลายมือถือว่าดี

       ยาม ๘ ( ๐๔.๓๐ - ๐๖.๐๐ )
ยามพุทโธสุริยงค์ส่งสว่าง พระรับนางกลับคืนบุรีศรี ผู้หญิงใดพาตนจากชนนี ถูกยามนี้ว่าเลิสประเสริฐจริง      แม้นมีคู่อยู่ห่างต่างจังหวัด      ไม่ข้องขัดจะได้กลับทรัพย์ทุกสิ่ง    มาบ้านเดิมเพิ่มพูลสมบูรณ์จริง ทั้งชายหญิงจงจำเป็นสำคัญ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ยามตกฟากคำกลอน

เรื่องยามตกฟาก

ยามตกฟากก็คือเวลาเกิด    สมัยก่อนไม่ได้มีนาฬิกาดูเป๊ะๆเหมือนสมัยนี้   คนโบราณที่เป็นผู้รู้หรือปราชญ์พื้นบานอาศัยดูหรือสังเกตุยามตกฟาก คือกลางวันมี ๘ ยาม กลางคืนมี ๘ ยาม ดูครับ


แปดยามตกฟาก  คำกลอน
แปดยามคำกลอน นี้เอามาจากหนังสือดูหมอที่พิมม์แจกตามงานศพแถวบ้านผม (ต.วัดสน อ. ระโนด จ.สงขลา ) นานแล้ว ลองค้นหาตามเวปไซด์แล้วไม่เห็นมี  เลยต้องลงทุนพิมม์เองเพราะไม่รู้จะจ้างใครเพราะจดมาคงไม่มีใครอ่านออก   เผื่อเพื่อนๆมาอ่านพบเข้าอาจถูกใจก็อปปี้เก็บไว้จะได้เหลือไว้ให้เด็กรุ่นหลังได้อ่านเล่นต่อไป

  ยามวันจันทร์         ยามวันอังคาร          ยามวันพุธ            
  ยามวัพฤหัสฯ      ยามวันศุกร     ยามวันเสาร์     
       
   
     วันอาทิตย์  กลางวัน
   
ยาม ๑ ( ๐๖.๐๐ - ๐๗.๓๐ น.)
วันอาทิตย์สุริยะเวลาเช้า      เมื่อลิงเฒ่าเที่ยวหาที่อาศัย         มาพบลังนกกระจาบเป็นลาภชัย      เข้าอาศัยพักกายสบายบาน        ถ้าผู้ใดได้กำเนิดยามนี้    ไม่มีที่พึ่งพักเป็นหลักฐาน   ต้องพึ่งเพื่อนเช้า เย็นไปเป็นนาน     ที่หลักฐานต่ำต้อยน้อยเต็มที

ยาม ๒ ( ๐๗.๓๐ - ๐๙.๐๐ น.)
ยามสุกระวานรพูดอ่อนหวาน     นกประธานที่พักเป็นศักดิ์ศรี   แม้นหญิงชายเกิดกายในยามนี้    จะมีที่พึ่งพักหลักสำคัญ     ทั้งพูดจาสิ่งใดก็ไม่ผิด   พวกญาติมิตรเชื่อจริงทุกสิ่งสรรพ์     มีโวหารชาญฉลาดสามารถครัน    ผู้อื่นนั้นตายใจไปทุกที

ยาม ๓ ( ๐๙.๐๐ - ๑๐.๓๐ น.)
ยามพุธทะวานรร้อนใจนัก      คิดจะลักกินไข่ของงปักษี       ใครตกฟากจากครรภ์มายามนี้      น้ำจิตมีทุตจริตด้วยมิตรภัย


ยาม ๔  ( ๑๐.๓๐ - ๑๒.๐๐ )
จันเทานั้นตรงกันตะวันเที่ยง     วานรเลี่ยงลอบลักฟักพะไข่       ใครตกฟากจากครรภ์มารดาไทยยามนี้ไซร้มีจิตคิดเป็นพาล   เที่ยวฉกลักของเขาทุกเช้าค่ำ      ไม่คิดทำสิ่งใดในสถาน

ยาม ๕ ( ๑๒.๐๐ - ๑๓.๓๐ )
ยามเสารีสกุณีกับลิงพาล     บังเกิดการเถียงเถาะทะเลาะกัน     ใครตกฟากจากยามนี้     มักมีวิวาทกับวงศ์ญาติสนิท          ทั้งเพื่อนมิตรก็มักจะผิดผัน

ยาม ๖ ( ๑๓.๓๐ - ๑๕.๐๐ )
ในยามครูมุนีเธอดีครัน    ปรึกษากันลิงกับนกให้ตกลง     ใครเกิดยามนี้ได้ที่ปราชญ์        ทั้งวงศ์ญาตินิยมสมประสงค์

ยาม ๗ ( ๑๕.๐๐ - ๑๖.๓๐ )
ยามภุมมะพระโยคี ฤทธิรงค์     มัดลิงดงศอกชิดติดเถาวัลย์       ใครจากท้องยามนี้มักมีทุกข์    บังเกิดยุคยากวิโยคแสนโศกศัลย์        ติดโซ่ตรวจขื่อคาสารพัน         ต้องแก้กันหลายคราระอาออน

ยาม ๘  ( ๑๖.๓๐ -๑๘.๐๐ )
สุริยะสายันณ์ตะวันค่ำ    อาทิตย์ต่ำตกดับลับสิงขร   พระฤาษีมีเมตตาปล่อยวานร      ให้พ้นตอนโทษทันอันตราย   ใครเกิดมายามค่ำย่ำอาทิตย์    ไม่มีทุกข์ยุคยากลำบากกาย     จบอธิบายวันอาทิตย์ประสิทธิ์มี
       
 วันอาทิตย์ กลางคืน

ยาม ๑     (๑๘.๐๐ - ๑๙.๓๐ )
วันอาทิตย์ระวีจรตระการ      เมื่อสุริยฉานตกลงในคงคา   ได้เมื่อพระมโหสถผู้เปรื่องปราช  มีฉลาดน้อมคำนับรับอาสา       ท้าววิเทธิปบดินทร์ปิ่นประชา   ขุดพสุธาเป็นอุโมงค์หวั่งส่งคน   จะไปตีพาราท้าวจรหนี       เกิดยามนี้ดีนักเป็นมรรคผล       มิสติปัญญายิ่งกว่าคน     ได้พึ่งตนท่านผู้ใหญ่ไปปลายมือ   ปรารถนาสิ่งใดไม่ค่อยขัด         มีสมบัติยิ่งนักคนนับถือ

ยาม ๒  (๑๙. ๓๐ - ๒๑.๐๐ )
ยามชีโวมโหสถปรากฏลือ       ยกพลถืออาวุธยุทธพัน         ไปถึงนครจรหนีดีประเสริฐ          ผู้ใดเกิด....ยามนี้ดีขยัน      อาศัยเจ้าเข้าณรงค์คงประพัน     จะลือลั่นโลกาทั่วธานี

ยาม ๓ (๒๑.๐๐ - ๒๒. ๓๐ )
ยามศศิเมื่อพหลพลทหาร     ตามภูบาลเจ้าปราชญ์สะอาดศรี    ใครตกฟากจากท้องต้องยามนี้  ทุกทวีเวทนาไปช้านาน      ต้องจากถิ่นฐานที่ไม่มีสุข     ต้องเกิดทุกข์ยากแค้นแสนสงสาร

ยาม ๔ (๒๒.๓๐ - ๒๔.๐๐ )
ยามศุโกรท้าววิเทคเนการ   ยกทหารรีบโยธารีบคลาไคล   ไปตั้งทัพพลับพลาในป่ากว้าง    คิดจะล้างเข้าตีบุรีใหญ่      ใครจากท้องยามศุกรสนุกใจ    จะไปไหนเปลี่ยวกายหาม่ายเลย  พลทหารล้อมกายทั้งซ้ายขวา    เป็นหัวหน้าทุกอย่างไม่วางเฉย

ยาม ๕ ( ๐๐.๐๐ - ๐๑.๓๐ )
ยามภุมมะมโหสถไม่ลดเลย       เสด็จเฉยถึงนครช้อนพวกพล    ใครเกิดทันยามอังคารสำราญจิต จะสมคิดปรารถนาหาลาภผล

ยาม ๖ ( ๐๑.๓๐ - ๐๓.๐๐)
ถึงยามเสาร์สองทัพขับไล่พล      เข้าตีปล้นนครรบรอนราน      จับได้ท้าวจรหนีจอมกษัตริย์  มาผูกมัดกายาไว้หน้าฉาน    ใครจากครรภ์ยามนี้มิเป็นการ มักต้องพาลราชภัยหลายเวลา  ต้องหมดเบี้ยเสียของเงินทองนาค   ทำไว้มากก็ไม่ได้ ร้ายนักหนา

ยาม ๗  ( ๐๓.๐๐ - ๐๔. ๓๐ )
ยามพุทโธจรหนีขัตติยา    เสียพาราสิ้นยศถดถอยหลัง    ในยามนี้ถ้ามีใครตกฟาก        ต้องตกยากยับยุ่ยเกือบผุยผง         มีโรคร้ายเบียนกายตั้งไม่ตรง      เก็บทรัพย์ส่งให้เขาอยู่เนาว์นาน

ยาม ๘ ( ๐๔.๓๐ - ๐๖.๐๐ )
ยามรวิรุ่งแจ้งแสงส่วาง    ต้องอัปปางเสียสินทั่วถิ่นฐาน    จะหนีภูวนัยบรรลัยลาน       เพราะเสียการเสียรู้ผู้ปรีชา  ใครเกิดการยามรวีนี้ต่ำต้อย     อายุน้อยเร็ววันสั้นนักหนา    หากอยู่ไปในมนุษย์สุดปัญญา   แต่เคหาพักกายเกือบไมมี