พระพฤหัสบ่ดี

sonteen  theory 8   พระพฤหัสบ่ดี ครูของเทวดา ผู้พิทักษ์คุณธรรม

ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วรู้สึกขัดใจ ก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆจะได้ไม่ผิดใจกันครับ

พระเจ้ากำหนดชะตาชีวิตมนุษย์  จากเทวดา ๘ องค์ ให้ลงมาเชิดสังขารมนุษย์   ดำเนินไปเป็นเรื่องราวรอบจักราศีจนกว่าจะหมดอายุขัย คือตายแต่เทวดาไม่ตายจะเสด็จกลับ   เทวดาทั้ง ๘ เป็นอย่างไร  มีเขียนบอกไว้ในทฤษฎีส้นตีนตอนที่ 1 -10  เขียนไว้เท่าที่นึกได้ก่อน    ค่อยเข้าไปเติมส่วนที่ลืมเขียน  ส่วนเรื่องจักราศียังไม่ได้เขียน เป็นเรื่องความสำพันธ์ของวงกลมสังขารกับเทวดาทั้ง ๘ อย่างมหัศจรรย์



พระพฤหัสบ่ดีเป็นครูของเทวดา ต้นกำเนิด.. พระอิศวรชุบมาจากฤาษี ๑๙ ตน สัญลักษณ์เลข ๕ พระฤาษีคือผู้ถือสมถ มีสติ มีปัญญา ดี ถือศีลนั่งสมาธิเข้าฌานอยู่เป็นกิจ  จึงสามารถมองเห็นพฤติกรรมของเทวดาทั้งปวง เห็นจริตอารมย์เทวดาว่าพระอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสฯ ศุกร เสาร์ ราหู เป็นเทวหรืออสุร  แรงหรืออ่อนแค่ไหน อบรมได้หรือไม่ได้ อย่างไร   ก็เหมือนครูเห็นลูกศิษย์ในห้องเรียน

เพราะฉะนั้นผู้มีดาวพฤหัสฯดีเด่น ก็สามารถแก้ไขดวงชะตาได้ในระดับหนึ่ง ส่วนจะได้แค่ไหนนั้น  ก็อยู่ที่กำลังขององค์เทวดาที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาว่าจะพยศแค่ไหน  จะประพฤติปฎิบัติตนได้ดีขึ้นมาเท่าไหร่ เทวคือ เทวดาแลอสูรเทวดา

เลขโสฬส พระพฤหัสฯ เกิดจากธาตุลมกรด ๓ บวกกับธาตุไฟกรด ๗ เติมเลขกำลังโสฬส ๙ ลงไป เพราะเป็นศุภเคราะห์ ได้กำลัง ๑๙ ออกมาจากภูมิกลางวนขวารอบเขาพระสุเมร 2 รอบ แล้วไปประจำอยู่ทิศตะวันตก

พระพฤหัสฯ ทรงอาภรณ์สีเหลืองและกวางทองเป็นพาหนะ  สีเหลืองเป็นสีตัดหมอกทำให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ดี พฤหัสฯจึงเป็นตัวแทนของปัญญา  ขึง สามารถมองฝ่าม่านหมอกของกิเลสตัณหาที่ห่อหุ้มได้ 

โลกธาตุเป็นธาตุดินตัวผู้  พระจันทร์ถือเป็นดินตัวเมีย ยกตัวอย่าง พระจันทร์เป็นหยวก พริกขี้หนู กะปิกระเทียม เกลือ หมู 3 ชั้น พระพฤหัสฯจึงเป็นแกงส้มหมูหยวกกล้วย คือดินที่ผ่านการโปรเสท เป็นเอ้าพุท  ทางร่างกายจะเป็นเซลใหม่ เนื้อใหม่ที่สร้างมาจากธาตุดินเดิม คืออาหารฯ  มิติสังคมเป็นบ้านเรือน ตัวรถ เป็นบริษัท องค์กร คือเป็นตัวเนื้อของรูปใหม่ มิติท้องฟ้าเป็นดวงดาวดวงใหญ่ อยู่ใกล้พระเสาร์

พฤหัสบ่ดีคือธาตุดินใหม่  คือเอาวัสดุหรือวัตถุดิบมาผ่านกรรมวิธี ได้เป็นรูปนามใหม่ที่ใช้งานได้จริง  หรือทำให้ได้เป็นอันใหม่ สิ่งใหม่ ชื่อใหม่



ทักษาวันพฤหัสบ่ดี วันเกิด หรือนรลักษณ์
เกิดวันพฤหัสฯๆ เป็นบริวาร มักมีบริวารหรือมิตรสหายเป็นครูอาจารย์ผู้รอบรุ้  ตัวเองเป็นผู้ใฝ่รู้  ดื้อไม่ยอมจำนนต่อสิ่งชั่วร้ายอันใด หรือสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ถูกต้อง  ชอบเตือนชอบสอน ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ชอบก่อกรรมทำบาปใดๆ

เป็นอายุของพระเสาร์  เกิดวันเสาร์ให้เริ่มต้นชีวิต โดยการฝึกปฏิตนตามคุณลักษณะของพฤหัสฯ คือ  ให้ใจเย็น มีสติ มีธรรม มีเมตตาปราณี ปล่อยวาง แล้วค่อยไปใช้เดชพระราหูเล่นแร่แปรธาตุ แปลงธาตุ ขยายธาตุ

เป็นมนตรีของพระศุกร์ เป็นครูอาจารย์ของพระศุกร์ ศิลปิน สาวงามนางงาม ให้หนักแน่น  ไม่อ่อนไหวจนเสียงาน ค่อยตักเตือน เบรคเป็นบางครั้ง มิติรูปคือเป็นเนื้อแน่นๆของสิ่งสวยงามให้มีความทนทาน  สวยนานๆ

เป็นอุตสาหของพระอาทิตย์ เจ้านาย บุคคลผู้มียศมีวัตรปฏิบัติคือปฏิบัตรอยู่เป็นประจำ   คือต้องฝึกตนให้มีธรรม มีความนิ่ง มีสติดีอยู่เสมอ

เป็นมูลของพระจันทร์ เป็นที่อยู่ที่ฝากตัวของพระจันทร์ ๆ ผู้ต่อ  ผู้มิจริตมายา ธาตุดินดิบ ควรมีเรือนรับรองที่สงบเย็นเป็นสุข พักผ่อนสบายไว้ต้อนรับแขกเหรื่อ  หรือยานพาหนะที่เป็นสาธารณ มีพระอาจารย์คอยตักเตือน บอกกล่าวให้อยู่ในกรอบ ในทำนองครองธรรม

เป็นศรีของพระอังคาร เป็นอาจารย์ของเจ้าชายผู้มาเรียนวิชา เป็นบิดาของนักรบ เป็นแสงส่างเป็นปัญญาของการทำศึกสงคราม คอยชี้แนะชี้ทางไม่ให้พระอังคารใช้แต่อาวุธธาตุลม ตีรันฟันแทง ยิง

เป็นเดชของพระพุธๆผู้ฉลาดทางความคิด ขีดเขียน เจรจา เชื่อมต่อสื่อสาร ได้พฤหัสฯที่เด่นๆมาเสริมปัญญาอันประณีต แทรกคุณธรรม ความรักความเมตตาปราณี การยับบั้งชั่งใจ รอบคอบ ไม่ผลีผลามทำให้พระพุธมีอำนาจ และดีเด่นเต็ม 100 ได้ทั้งผู้นับถือความเก่งกล้าสามารถ    และเคารพคุณธรรม พูดง่ายๆ คือแม้ตัวจะเด่นก็ไม่เป็นภัย

เป็นกาลกิณีของพระราหู  พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่  นักสร้างเครื่อข่าย ผู้สร้างกฏเกณท์  ฯ ควรทำบุญ บริจาคเยอะๆ เพื่อจะได้ใจ ได้ใจก็ทำมาค้าขายง่าย ยิ่งรวย  และก็ทำใจให้สงบ ไม่ฟ้งซ่าน เจริญธรรม เจริญสติ ก็จะได้เป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวยตลอดกาลครับ



กลับไป.... ทฤษฏีส้นตีนตอนที่ 1

ศาสตร์แห่งตัวเลข

sonteen  theory 7  ศาสตร์ตัวเลขกวนส้นตีน

ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วรู้สึกขัดใจ ก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆจะได้ไม่ผิดใจกันครับ

เขียนเรื่องทฤษฎีกวนส้นตีนก่อนหน้านี้ไป 6 ตอน  เรื่องที่เขียนเกี่ยวข้องกับตัวเลขเทวเคราะห์ ๘ องค์ ซึ่งเป็นตัวเลขสัญลักษณ์หรือเอกลัษณ์   ก็ขอวกกลับมาเรื่องตัวเลขพอให้เป็นที่มาที่ไปหน่อย   เดี๋ยวจะงง  ปีนี้พศ. 2560 มีเรื่องศาสตร์ตัวเลขมหัศจรรย์ออกมามากมาย เปิดคอร์สอบรมกันแยะ เห็นคนไปเรียนกันเยอะ  ผมไม่รู้เขาสอนเรื่องอะไรกัน  ก็ดีครับถือเป็นฝึกฝนความรู้ประเทืองปัญญา และเป็นการช่วยกันทำมาหากิน  

ตามตารางตัวอย่างข้างล่างนี้  เป็นการบอกถึงเรื่องฐานตัวเลขคร่าวๆ แบบเรียงตามลำดับ ว่าแต่ละฐานเป็นแบบนี้  สามารถนำเอาไปใช้ให้เหมาะกับเฉพาะเรื่องๆได้ ไม่ใช่ใช้เลขฐาน 10 ฐานเดียวได้ทุกเรื่อง  ดูจะธรรมดาไป  


เรื่องตัวเลขที่จะกล่าวถึงจะกล่าวในที่นี้มี  2 แง่คือ เลขจำนวนนับและเลขสัญลักษณ์หรือเอกลักษณ์  ที่ใช้กันมาแต่โบราณ  ส่วนคำว่าฐานนั้นแปลว่าที่ตั้งที่รอง ที่หยั่ง ที่มา โดยปกติในวิชาโหราศาสตร์โบราณกล่าวว่ามี 3 ฐาน คือ.... มูลฐาน....รากฐาน...พื้นฐาน..ขับเข้าดาว เข้าดวง เข้า.. ต้น  กิ่ง ใบ ดอก ผล ฯลฯ . ..รายละเอียดจะเป็นยังไงนั้นท่านก็ไปศึกษาตามภูมิปัญญาของท่านเอง  เรียงตามลำดับความลึก

เลขฐาน 2 มี 2 ตัวคือ 1 กับ 0 สมัยแรกก็เรียนในวิชาดิจิต้อล เขาเรียกว่าเลขไบนารี่ ใช้อธิบายการทำงานพื้นฐานทางอีเลคทรอนิคส์ในยุคดิจิต้อล  0 ปิด 1 เปิด พวก gate แบบต่างๆ  มหัศจรรย์ครับ แปลกดี  ปัจจุบันนี้ผมนำมาใช้กับเทวดา และอสูร เลข 1 แทนเทวดา เลข 0 แทนอสูร   เทวดาตามฝาผนังโบสถ์ วิหารผิวพันธ์ ราศีดีนุงผ้าแต่ไม่ใส่เสื้อ    พวกอสูรจะแต่งตัวดี เลยนำมาใช้กับวิชาอุตุฯสไตล์ผมเอง เลข 1 แทนความร้อน TROUGS เลข 0 แทนความเย็น Ridge   และใช้เติมค่าเทวดาจร และลดความเป็นกรดเป็นด่างของจักรราศีกระทบ  เพื่อแก้ดวงชะตาไม่ให้โดนละลาย กัด เผา กระแทก ฯลฯ

เลขฐาน 3 ปัจจุบันไม่มีใครใช้ เมื่อก่อนหมอดูพื้นบ้านใช้จับยาม 3 ตา หรือว่าวิชายามตรีเนตร  ดูของหาย  คนตาย  ออกรบแพ้หรือชนะ  ปัจจุบันใช้เลข 1 เป็นอนิจจัง  2 ทุกขัง เลข 3 อนัตตา หรือใช้กับกาลตรียางค์โหราศาสตร์ เบื้องต้น เบื้องกลาง เบื้องปลาย ใช้กับพระเจ้า 3 องค์ พระพรหม  นารายณ์ อิศวร  เป็นเลขเวลา แต่ไม่เชิงเวลานาฬิกา

ภาพนี้เป็นตัวอย่างเลขฐาน ๘ เรื่องเทวดา ๘ องค์

เลขฐาน 4 ใช้กับโลลกธาตุ หรือมหาภูตรูป เป็นคำนาม ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ใช้เป็น กริยา ลำดับในการทำให้เจริญ เรียง ไฟ ดิน ลม น้ำ เรียงผิดทางก็ไปทางตาย เสื่อม ไม่เจริญ

เลขฐาน 5 6 7 ก็เช่นกันแล้วแต่ภูมิปัญญาท่านจะประยุกต์ใช้กับเรื่องราวอันใด เช่นขันธ์ ๕  ชั้นเทวดา ๖ วิชาเลข ๗ ตัว เลข ๙ ฐาน เป็นต้น ส่วนวิชาทางโน๊ตดนตรี ก็มี แบบบันได ๗ เสียง บันได ๕ เสียงเป็นต้น

เลขฐาน 8 ผมจะใช้เยอะ  ใช้กับเทวดา แบบเรียงลำดับธาตุพระเคราะห์  เลข ๑ พระอาทิตย์  เลข ๒ พระจันทร์ เลข๓ พระอังคาร  เลข ๔ พระพุธ เลข ๗ พระเสาร์ เลข๕ พระพฤหัสฯ เลข๘ พระราหู  เลข ๖ พระศุกร์

เลขฐาน 16 ใช้ในวิชาอีเลคทรอนิคส์ กับระบบดิจิตอล พวกเข้ารหัสต่างๆ ซับซ้อน  สามารถดัดแปลงมาใช้การแก้ไขดวงชะตาได้ คล้ายเลขฐาน 2

เลขฐาน 12 ใช้ในเรื่องสถานที่ จักราศี อสังหาริมทรัพย์  สิ่งที่ไม่มีจิตวิญญาน

เรื่องนี้นึกออกก็เขียนเลย   ค่อยกลับมาแก้ไขใหม่    บทความตอนนี้ใช้เพื่อการประกอบทฤษฎีส้นตีน เรื่อง ๘ เทพฯครับ

พระพุธ

sonteen  theory 6
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วรู้สึกขัดใจ ก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆจะได้ไม่ผิดใจกันครับ

พระพุธทูตของพระเจ้า   เป็นที่สถิตย์ของวิญญานธาตุ   มิติบนท้องฟ้าเป็นแค่ดวงดาวเล็กๆ   มิติเรื่องทางโลกเป็นเทวเคราะห์ที่มีอำนาจมากมายมหาศาล     ผู้ใดมีพระพุธดีเด่นแท้  ผู้นั้นจะสามารถนำพาตัวเองหรือชี้ทางผู้อื่นให้เป็นยอดคนได้  ผู้ใดสามารถสะกดพระพุธให้สงบรำงับได้  ผู้นั้นจะเข้าถึงพระเจ้า

พระศิวะชุบขึ้นมาจากช้างสาร ๑๗ เชือกจึงมีกำลัง ๑๗ ทรงอาภรณ์สีเขียว  โลกธาตุเกิดจากทิศใต้ ออกมาวนรอบเขาพระสุเมรุ 2 รอบแล้วไปประจำอยู่ทิศทักษิณ วิชาเลขโสฬสเกิดจากธาตุดินเหลว ๒ ผสมกับธาตน้ำฝน ๖ รวมกันได้ = ๘ บวกด้วยเลขกำลังนพเก้า (ศุภเคราะห์ )  = ๑๗)


พระพุธเป็นเทวทูต  จึงฉลาดในการสื่อสาร  เป็นนักพูด  เป็นนักคิดนักเขียน นักแต่ง นักร้อง นักฝัน นักแสดง เป็นผู้สื่อข่าวเป็นผู้เชื่อมต่อเครือข่าย ฯลฯ พระพุธ  เป็นดาวเคราะห์ที่ดวงเล็กที่สุด วงโคจรแคบอยู่ห่างจากพระอาทิตย์ไม่เกิน ๒๘ องศาตามปฏิทิน  จึงอุ่นและร้อนแอคทีฟอยู่ตลอด  มองเห็นด้วยตาเปล่ายาก ตามปฏิโหรจะมองเห็นพักร์ (หยุด) มณท์ (ช้ากว่าปกติ) เสริด (เร็วกว่าปกติ) บ่อยมากเพราะวงโคจรเล็ก  จะโคจรช้าตรงหัวโค้งเลี้ยวกลับบ่อยฯ

พระพุธเป็นธาตุน้ำตัวผู้ เป็นพลังการเกิดของชีวิต ในจักราศีเป็นเกษตรที่ราศีมิถุน และราศีกันย์ มหาอุจจ์ที่ราศีกันย์ ราชาโชคและมหาจักร์ที่ราศีสิงห์ ส่วนเป็นด้วยเหตุผลกลไกใดนั้น ผู้มีภูมิปัญญาท่านลองใช้หลักเหตุและผลจริงๆพิจรณาดูก็รู้ครับ อาจหลายปีหน่อย

หลักทักษา
โดยหลักการณ์ทั่วไป เราจะนับบริวารจากวันเกิด   ส่วนนรลักษณ์นั้นเป็นลักษณะจริงๆของเจ้าชะตาบางทีก็ไม่ตรงกับวันเกิด ไม่ตรงกับยามอัฐกาล แต่จะตรงกับโหงวเฮ้ง    จะมาได้ยังไงแน่ชัดนั้นผมก็ยังไม่กล้าสรุป   แต่หมอดูทีเก่งมากๆคงรู้ดี

ส่วนทีเขียนทักษาข้างล่างนั้น ถือเอาด้านที่ดี  ด้านเทวดา   หากเป็นด้านไม่ดีหรือดีแบบแนวทางอสูรก็เติมเลข 0 ลงไป จะกี่บิดก็เอาตามความแรงของพลังอสูร ผมเรียกว่าเลข 0 ทั้ง 8 

เกิดวันพุธ หรือมีนรลักษณ์พุธ พูดเก่ง พูดเพราะ  อ่อนหวานมีปฏิภาณไหวพริบ ดี  ชอบศึกษาเล่าเรียน มีความกระตือรือร้นใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ ชอบการเจรจาการติดต่อสื่อสาร ทั้งพูดและเขียนหรือส่งรหัสลับ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งพลังเยอะ  พลังหยาง หลับไปแล้วยังมีฝันเป็นเรื่องราว

เป็นกาลกิณีของพระเสาร์    พระเสาร์ผู้คิดลึกสรุปรวบยอด จริงจัง ไม่เล่นไม่หัว ดูเครียดๆ ไปเริ่มฝึกจิตที่พระพฤหัสฯแล้วก็วนไปๆ มาจบตัวสุดท้ายที่พระพุธๆ  พลังแห่งความคิด ธาตุน้ำอันซอกแซกเชื่อมต่อไปได้ทุกเซล ช่วยทำให้สามารถสรุปสิ่งที่ยังสงสัยได้

มนตรีของพฤหัสฯ  ครูอาจารย์ผู้ทรงธรรม เอาท่านมาเป็นผู้ชี้แนะ หรือขอคำแนะนำ หรือเป็นครูเป็นที่ปรึกษาของท่าน หรือให้ท่านเป็นผู้อธิบายความ หรือบอกจุดประสงค์แก่สังคมภายนอก



อุตสาหะของพระราหู (หมอดูสายที่เล่นมีเกิดวันพุธกลางคืน) ผมไม่มีวันราหู   ก็ถือเอาราหูเป็นนรลักษณ์ของพ่อค้า ของผู้คุมกฏ ของศิลปิน ให้มีคอนเน็คชั่น การติดต่อกับประชาชนทั่วไปดีๆ  ศึกษาทำความเข้าใจกลวิธีเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ตรง มีเชิงมีกลยุทธ์

มูลของพระศุกร เป็นหลักฐาน เป็นทรัพย์ เป็นสถานที่ ของพระศุกร  โรงละคร  เวทีการแสดง  เครื่องเสียงแสงสี เป็นหนังสือสัญญา

เป็นศรีของพระอาทิตย์  เป็นความสุข ความชื่นใจ ปลื้มใจ ภูมิใจของเจ้านาย ได้มีมันสมองอันเลิส มีนักคิด นักเขียน นักออกแบบฯให้ชื่นใจ ทำให้สามารถตัดสินใจกระทำการงานใดๆได้ง่ายขึ้น

เป็นเดชของพระจันทร์ พระจันทร์มารดาโลก เลขานุการ ผู้ประสานงานติดจ่อเรื่องราว มีพระพุธช่วยคิดช่วยพูดช่วยเจรจา  เรื่องที่ยากก็กลับเป็นง่าย ทำให้พระจันทร์ดูดีมีจริตมีเสน่ห์แล้วยังมีความฉลาด

เป็นอายุของพระอังคาร ผู้กล้าแข็ง  มีกำลังมาก ให้เริ่มต้นดำเนินชีวิตโดยฝึกตนให้มีความคิดอ่านดี  รู้ดี  พูดดี เขียนดี แช็ทดี  โพสเฟสบุ๊คได้ดี มิติระดับร่างกายเลือดและสารอาหารที่นำไปส่งให้เซลดี เป็นเบื้องต้น  แล้วค่อยให้พระเสาร์  เป็นผู้แสดงเดชเป็นอันดับต่อไป

การบูชาพระพุทธ ท่านก็ไปหาอ่านเอาว่าเขาทำกันแบบไหน  แนวผมคนไม่มีพิธีรีตองก็...ใช้แนวการทำทักษิณาแบบพระสอน  ทักษิณาคือการใให้ การปลูก   มีความรู้ใดก็สอนไป  ชี้แนะไป มีทัรพย์ก็ซื้อสมุด หนังสือ    อุปกรณ์สื่อสาร ถวายวัด  ให้โรงเรียน บริจาคให้ผู้ยากไร้   แล้วก็น้อมระลึกถึงบุญกุศลทีทำบูชาพระพุธแบบนี้เป็นต้น  ความรู้ที่ท่านก็จะยิ่งงอกงาม  เรียกว่าบุญต่อบุญ   ชอบปลูกอะไร ก็ปลูกสิ่งนั้นครับ คนจริตไม่เหมือนกัน

พระอังคาร

sonteen  theory 5 พระอังคาร
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆ จะได้ไม่ผิดใจกันครับ

พระอังคารได้ชื่อว่าภูมิดนัย แทนด้วยเลข ๓ แปลว่าบุตรแห่งโลก ความหมายคือผู้ผุดขึ้นมาจากดิน    คือพลังแห่งการงอกออกมา การเติบโต การขยายออก  ทางโหราศาสตร์เป็นเกษตรราศีเมษ ราศีเข้าสู่โลกทางศีรษะ แม้ว่าตอนคลอดจะเอาเท้าออกก่อน หรือผ่าตัดมาก็ตาม  เป็นเกษตรราศีพิจิก ราศีมรณหรือราศีเข้าสู่โลกอื่น ถิ่นอื่น แดนไกล ต่างประเทศ ต่างภพ ต่างดาว  โลกวิญญาน  เป็นราศีดันตัว ดันลำต้นให้โต ราศีดันดอก ดันผลให้โต พลังการขยาย

พระอังคารประจำอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ตามหลักทักษา   มิติโลกระดับท้องถิ่น พระอังคารธาตุลมพัดมาจากทิศใต้หรือตะวันตกเฉียงใต้  จะไปบรรทุกธาตุน้ำจากพระพุธมา  หากพัดเร็วเกิน 26 น็อทก็เกิดแรงเหนี่ยวนำ หรือดึงอากาศที่มีอยู่เดิมให้มีการโค้งขึ้น ทำให้เกิดฝนตกได้ แม้พัดไม่เร็วแต่ปะทะกับแนวภูเขา   ก็โค้งขึ้นทำให้มีฝนตกได้เช่นกัน หากพัดแรงที่ใต้ดิน ก็หวาดเสียวครับ  แผ่นดินไหวหรือเคลื่อนได้ง่าย


วิชาโหราศาสตร์บอกว่าพระศิวะชุบมาจากกระบือ ๘ ตัว พรมด้วยน้ำอำมฤต  เสร็จแล้วออกจากภูมิกลาง  ภูมิจิตวิญญาน ออกทางทิศใต้ วนขวารอบเขาพระสุเมร 1 รอบ (บาปเคราะห์)   แล้วไปประจำอยูทิศอาคเนย์ มีกำลัง ๘ ในวิชาโลกธาตุโสฬส กำลังธาตุเกิดจาก ธาตุดิน ๒ + ธาตุน้ำฝน ๖ = ๘ ภาพวาดพระอังคารเก่าๆ ผิวออกสีทองแดง ทรงกระบือเป็นยานพาหนะ

พระอังคาร ถือเป็นธาตุลมตัวผู้ คือดันออก ดันขึ้นบน เป็นแบบปฏิกิริยาฟิวชั่น     จึงเห็นมีสีแดงนำหน้ารังสีอินฟราเรด  จะคล้ายกับดาวฤกษ์ด้วย  ลองสังเกตุดูบนท้องฟ้า  มักจะเห็นเป็นดาวคู่ ดวงหนึ่งสีแดง ดวงหนึ่งสีฟ้า   ผมมองว่าแดงคือขาออกเพราะเอาพวกเศษฝุ่นผง ฯลฯ ออกไปด้วย   สีฟ้านั้นเป็นขาเข้า หนาวและแห้ง แสงสีฟ้าผ่านสบาย

หากเป็นในร่างกายหมายถึงคนแข็งแรง  และบางรายเป็นความดันสูง  เพราะหัวใจมีแรงดันสูงเพื่อส่งเลือดให้ทั่วถึงทุกเซล แต่เส้นเลือดอาจตีบตัน    ต้องดูแลร่างกายดีๆ อย่าให้เส้นเลือดหรือท่อน้ำ ท่อลมตีบ หรือสายไฟเปราะเพราะเก่า  ท่อแคบเพราะสนิม เพราะไขมันเลว หรือสกปรก รถ น้ำ กระแสไฟฟ้า (ลมอังคาร ) วิ่งลำบาก อาจมีปัญหาเส้นเลือดแตกได้ ระดับโลกหมายถึงการเคลื่อนทัพ  การใช้กำลังตัดสินทั่วไป

หากเป็นธุรกิจคือการลงทุน อังคารพลังเอาออก อะไรออก แรง เงิน ทรัพย์  ได้กลับเป็ขาเข้าคือพระราหู พระราหูเอาอะไรเข้า เงิน อาหาร รถ บ้าน ...ต้องไล่สัมพันธภาพดู บริหารดีๆ อย่าให้ขาดทุน อย่าให้เล็กลง  ให้โตขึ้นทั้งร่างกาย หรือกิจการ แรงดันดี มีอุปสรรคเป็นแรงต้านทาน แต่ผ่านไปได้ นั่นคือผู้มีความเพียรสูง สู้แบบไม่ยอมแพ้

หลักทักษา
ทักษาเรื่องทางโลกในมุมมองของผม เข้าใจว่ามาจากคำว่าทักษิณาวัตร คือการวนขวาไปหาอนาคต รูปนามที่ปรากฏเป็นอุตตราวัตรออกมาเป็นอดีตให้เห็น   ในที่นี้จะถือเอาว่าพระเคราะห์นั้น  เอาตามวันเกิดหรือตามลักษณะนรลักษณ์ จะได้เขียนง่ายๆ  ทักษาคือหลักการดำเนิชึวิตเป็นขั้นเป็นตอนให้สอดคล้องกับลักษณะนรลักษณ์ตัวเอง  จะได้ไม่มีปัญหา หรือเกิดปัญหาน้อย

พระอังคารเป็นบริวาร หมายถึงเกิดวันอังคารหรือมีคุณลักษณะแบบพระอังคาร    เจ้าชะตาหรือบริวารผู้ใกล้ชิด มักเป็นผู้มีพละกำลัง แข็งแรง ใช้แรง หรือพวกขาลุย พวกไม่ยอมใครถ้าไม่นับถือไม่เคารพจริงๆ ผิวกายมักมีสีดำแดง รูปร่างดี แบบคนแข็งแรง  แม้จะอ้วนก็อ้วนแบบแข็งแรงมีกล้ามเนื้อ

พระอังคารเป็นอายุ ของพระจันทร์ๆ จะกระทำการงานใดๆ ควรเริ่มต้นนับ 1 ที่คุณลักษณะของงพระอังคารก่อน จึงจะนับ1 ได้ดีถูกที่ถูกทาง คือทำตัวเองให้มีความเข้มแข็ง ขยัน ทำตัวเองให้แข็งแรง มีเพาเวอร์สูง ข่มจริตมารยา หรือความน่ารักตัวเองไว้อย่าให้ออกมามาก

พระอังคารเป็นเดช ของพระอาทิตย์  คือเจ้านาย หรือผู้มีเกียรติ์ควรมีอำนาจ มีนายทหาร นายกองที่แข็งแกร่ง มีอาวุธยุทธพันดีๆ มีกองกำลัง แต่ถ้าคนระดับเดียวกันจะไม่ถูกกัน  อังคารไม่ชอบคนหยิ่ง ยะโสวางก้าม  โดยที่ไม่ได้เป็นเจ้าเป็นนายแต่อย่างใด


เปรียบเทียบกับรังสีความร้อน ความถี่คลื่นวิทยุ... พระอังคารอยู่ด้านสีแดง เป็นด้านที่ความร้อนดันออกมา

พระอังคารเป้นศรีของคนเกิดวันศุกร์หรือลักษณะนรลักษณ์ศุกร์    ศุกร์จะชอบและชื่นชมคนที่แข็งแกร่ง  เก่ง เพราะย่อมดีและง่ายต่อการแสดง แสวงหาความสุข การท่องเที่ยวปล่อยอารมย์อันสุนทรีย์ ของตนเองเป็นพระเคราะห์คู่มิตร คู่สุนทรีย์ พิสมัย คู่ฟุ่มเฟือย ทั้งรับและจ่าย

พระอังคารเป็นมูละ  เป็นที่อยู่อาศัยเป็นหลักฐานของคนเกิดวันพุธกลางคืนหรือวันราหู  แต่ตรงนี้ผมไม่เล่น วันราหูผมไม่มี  เอาวันแค่ ๗ วันตามสังคม ประเพณี  หากใครจะเอาก็ได้ พระอังคารเป็นมูละก็หมายถึงทรัพย์สินทั้งหลายควรเป็นทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้  อาจเป็นรถเรือ หรือเป็นนายหน้าค้าที่ดิน หรือพวกอสังหาริมทรัพย์

พระอังคารเป็นอุตสาหะ ของคนเกิดวันพฤหัสบ่ดี  คือเป็นผู้มีความเพียร ความขยัน ทำงานให้เจ้านายผู้ทรงคุณธรรม พระฤาษีต้องปฏิบัติยืดเส้นยืดสายให้เป็นกิจวัตร อย่าเอาแต่นั่งภาวนา เดินจงกรม ดัดตนโยคะเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติอย่าให้ขาด  เป็นพระเคราะห์คู่สมพล ที่สนับสนุนส่งเสริมกัน ครูผู้ขยันเล่าเรียน ปฏิบัติธรรมหรือสั่งสอนศิษย์ อังคารเด่นก็อาจเป็นพระนักพัตนา หรือผู้ใหญ่ที่มีคนเก่ง มีฝ่ายกำลังมาช่วยทำงานที่เป็นประโยชน์ให้สังคม

พระอังคารเป็นมนตรีของพระเสาร์  คือเป็นที่ชื่นใจ เป็นที่นิยม ชมชอบนับถือของประชาชนขั้นชาวบ้านร้านรวงทั่วๆไป   หรือเป็นแม่ทัพที่เคารพนับถือ ของกำลังพลทั่วไป

พระอังคารเป็นกาลกิณีของพระพุธ คือถ้าขยันขันแข็งใช้แรง พระพุธไม่เอา  เอาแบบเจรจา แบบเขียนแบบคิด แบบพูด แบบแช็ทนั้นได้  เกิดวันพุธหรือลักษณะของพระพุทธ ห้ามนับ 1 ที่อังคาร เพราะหมายถึงจบเห่ หรือหายนะคิดได้แล้วรู้แล้ว ต้องไปนับ 1 ที่พระเสาร์ คือทบทวนสรุปฯ ให้เสร็จก่อน ค่อยใช้กำลังเป็นสิ่งสุดท้าย

เราจะเห็นว่าการตั้งชื่อของหมอดูไทย ของพระสงฆ์ที่ดูหมอท่านจะไม่เอากาลกิณีมาใช้   แต่ทั้งหมดจะหมายถึงอักขระ พญัญชนะ มาตั้งชื่อ  คือกลัวกลัวว่าจะไม่เจริญ หรือฉิบหายเลย  แต่ผมเองชอบตั้งชื่อตามเสียงมากกว่า เพราะใช้ได้กับทุกชาติ ภาษา และไม่ชอบการเปลี่ยนชื่อ แต่ให้เปลี่ยนพฤติกรรม กับทำกาลกิณี หรือวินาสภพให้มีคุณภาพมากกว่าครับ

กลับไป  ทฤษฏีส้นตีน 1     ทฤษฏีส้นตีน 6

กรุงเทพฯจมบาดาล

คำทำนาย กรุงเทพพฯจมบาดาลของหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม  ท่านบอกว่ากรุงเทพจะกลายเป็นเมืองบาดาล นี้ลอกมาจาก  เวปไซด์  พลังจิตคำทำนาย กทม.จมบาดาล

เก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ เตือนความจำ (ภาพและข้อความข้างล่างลอกมาทั้งหมดครับ)


๑. ภัยพิบัติจะเกิดตั้งแต่ปลายธันวาคม (๒๐ธันวาคมนี้ขึ้นไป)จากนั้นจะหนักขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะทางภาคใต้เพราะต้องเผชิญกับคลิ่นยักษ์ เรื่อยขึ้นมาจนถึงภาคกลาง จะลำบากที่สุด ส่วนกรุงเทพจะกลายเป็นเมืองบาดาลร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องไม่ตั้งมันแล้ว ย้ายได้ย้ายเลย

๒. จังหวัดที่น่าไปอยุ่ทางอิสานได้แก่ทางขอนแก่น อุดร เพชรบูรณ์ เลย และใกล้เคียง แต่ภัยพิบัติส่วนใหญ่จากทางอิสานได้แก่การขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้เป็นส่วนใหญ่ ทางที่ดี ถ้าจะไปลงทุนกันที่ลาวไปเลยก้ดีครับ

๓. ภัยพิบัติทางเหนือได้แก่ความหนาวเนื่องจากจะมีปรากฎการณ์พิเศษเกี่ยวกับภัยฝนพิษ ทำให้เดือดร้อนและขาดแคลนอาหารการกิน ต้องหัดกินเจและกินเห็ดให้ได้ เนื้อสัตว์จะขาดแคลนและมีพิษตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนคนอยู่ทางเหนือจะรอดเยอะแต่ลำบากเพราะภัยหนาวและต้องหัดกินเจให้ได้

๔. ภัยที่จะมาตอนนี้ได้แก่ภัยจากเขื่อนแตกและภัยจากการคมนาคมที่ถุกปิดตาย ลำบากมากในการเดินทางไปไหนมาไหนข้ามจังหวัดนับแต่วันที่๒๐ธันวาคมนี้ขึ้นไป
---------------------------------------------------
กรุณาอ่านให้จบด้วยยิ่งดี เรื่องมันสำคัญมาก ขอบคุณมากค่ะ

หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต  วัดร่มโพธิธรรม จังหวัดเลย

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลาเช้า ขณะหลวงพ่อกำลังฉันภัตตาหารเช้า ท่านได้มีเมตตาเรียกเข้าไปนั่งคุย-ส่วนตัว ด้วยเสียงเบา ๆ ได้ยินเฉพาะตัว คือ หลังจากเทศนาและถวายสังฆทานเสร็จ ก็มีคนเข้าไปถวายของแด่หลวงพ่อ เราก็นั่งอยู่ด้านหน้าค่อนไปทางขวามือของท่าน ห่างสัก 4 วา พอคนว่างและท่านเตรียมฉัน ท่านก็ถามว่า "ไงละเอียด ว่ายังไง" เราก็คลานเข้าไปกราบและนั่งอยู่ด้านหน้าค่อนไปทางขวาของท่าน ห่างออก 2 วา ท่านก็ชี้ให้ไปนั่งข้างหน้าของท่าน "นี่มา ที่นี่" เราก็คลานเข้าไปกราบและนั่งลงข้างหน้าของท่าน ท่านก็เริ่มฉันภัตตาหารและเริ่มคุยด้วยเสียงที่เบามากได้ยินกันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น ท่านพูดเรื่อง ภัยพิบัติ ...สักครู่หนึ่งเราก็หยิบปากกาและกระดาษจากกระเป๋าเสื้อมาจดการสนทนากับท่าน

(1)….(ภัยพิบัติเกิดขึ้น) ทั่วโลก ชายทะเลจะลำบาก ผู้มีอธิวาสนาถ้าไม่รู้จักสละก็จะใช้กรรมพ่วงไปด้วย

กลางเมษายนถึงปลายเดือนต้องเคลียร์ตัวเอง ยอมทิ้ง สละ ออกจากพื้นที่…. ภาคเหนือและภาคอีสานจะพ้นภัย(ให้รีบเคลียร์) จะได้ไม่ทุลักทุเล สนามบินยังอยู่ สนามบินยังอยู่ บางประเทศหายไป

…..ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลังนะลูก….. น้ำจะแห้ง ตึกจะทรุดตัวลง เขื่อนจะแตก แผ่นดินจะแยก (("ฉับพลัน"))

(2)….กลางเดือนเมษายนต้องเคลียร์ตัวเองแล้ว ต้องดับรอเลยนะลูก (ปล่อยวาง)

…..เดือนพฤษภาคมไม่น่าอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วนะลูก ("ไม่น่าอยู่แล้วก็แสดงว่าต้องออกก่อนเดือนพฤษภาคมใช่ไหมครับ ?") เดือนพฤษภาคมไม่น่าอยู่ที่ กรุงเทพฯ แล้วนะลูก เป็นเวลาที่ไม่น่าอยู่แล้ว ไม่ใช่เวลาที่จะ "ตัดสินใจ" แล้ว ("ต้องตัดสินใจก่อนหน้านั้นแล้ว!")

….."ตายกันเยอะมาก นั้นน่าสะเทือนใจจังครับ" ไม่ต้องหนักใจ(ไม่ต้องสะเทือนใจเพราะ) ไม่ใช่วิสัยของโพธิสัตว์ มหาโพธิสัตว์

(3)…."จะมี (ซายน์) Sign หรือสัญญาณหรือเครื่องหมายอะไรบอกบ้างหรือไม่ครับ"-ท่านโน้มพระกายลงมา "ก็กำลังบอกอยู่นี่ไง"

…จะฝันถึงโดยพระมหาโพธิสัตว์ ผู้มีอธิวาสนา (ยิ่งใกล้จะยิ่งฝันใช่ไหมครับ?)
…อย่าเอาความลังเลเป็นที่ตั้ง ให้เด็ดขาดในเรื่องของการไม่ยึดติด
…ไม่ลังเล น้อมนำบารมีคุ้มครอง
…ให้กรรมจัดสรร ผู้มีวาสนาจะช่วย ศาสนาจะอยู่ได้
…ได้รับสัญญาณ (ฝัน) ของใครของมันให้สละเลยอย่าได้ผัดวันประกันพรุ่ง!!!

(4)…ล้างบาง สัตว์ที่เป็นภาค มืด ถูกผิดไม่มี มีแต่วิถีกรรม

….ขัดขวางสัจธรรมจึงต้องล้าง ล้างใหม่ ไปสู่ภาคละเอียด ภาคละเอียดจะรับง่าย จะไปโปรดใหม่

กายหยาบไม่เข้าใจเจตนา กรรม ดันทุรัง เพราะหยาบ สังคมเป็นตัวแปร กระแส ทั้งสังสารวัฏไปตามกรรมหมด
ลงอสุรกายเยอะ งมการเป็นการอยู่ เป็นเหตุลงนรกภูมิทั้งนั้น
…การเพลินก็ลงอสุรกายเช่นกัน ไม่ใช่แค่ดูหนังฟังเพลง

(5).…งานทั้งหมดก็กรรมทั้งนั้น สรุปลงสู่ ว่าง ไม่ใช่อะไร ไม่ใช่แม้แต่ตัวเอง หมดเวลาแล้ว

(6)…."กราบขออภัยที่ทำให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อลำบากเพื่อพวกข้าพเจ้าทั้งหลายครับ"
- ไม่ใช่ลำบากหรือไม่ลำบาก เพราะโปรดสรรพสัตว์อย่างเดียว

….สรรพสัตว์ถูกล้างด้วยอนุภาพ (โปรดสัตว์ด้วยอนุภาพ)

(7)…."หากสัตว์โลกต้องตายกันมาก ๆ (เพราะเหตุภัยพิบัติครั้งเมษายน 2554 ครั้งนี้) ก็น่าเสียดายที่พวกเขาทั้งหลายต้องจากภูมิมนุษย์ไป เพราะภูมิมนุษย์เป็นที่หมายของทุกหมู่เหล่ามิใช่หรือครับ"
- มนุษย์ว่าเอาเอง ของเขา เขาก็ว่าของเขาดี ที่สุด ยึดใครยึดมัน บางภูมิไม่อยากเข้าใกล้มนุษย์ด้วยซ้ำไป มนุษย์ว่าเอาเองว่าเป็นมนุษย์ดีที่สุด เทวดาก็ว่าเป็นเทวดาดีที่สุด แต่ไม่ว่าภูมิละเอียดภูมิหยาบก็กรรมทั้งนั้น

(8)….หลังจากนั้นท่านก็บอกให้ไปรับประทานอาหาร เราก็กราบลาออกมาโดยกล่าวปฏิญาณตนต่อท่านด้วย
-ท่านก็โส..ส..ส..ส..ส.. ตอบรับให้

..............................................................................................................

เมื่อเช้า 16 กุมภาพันธ์ 2554 

หลังจากหลวงพ่อกลับเข้ากุฏิ พระผู้อุปัฏฐากหลวงพ่อนำน้ำที่หลวงพ่อดื่มเหลือมาให้ 1 ขวด และเตือนให้ว่าง วาง และดับรอไว้เสมอ ๆ เราก็กราบท่านและรับคำ บอกท่านว่าหลวงพ่อก็บอกให้ดับรอเผชิญกับภัยพิบัติไว้เลย
ตอนเข้าไปลาท่านเพื่อจะกลับเข้ากรุงเทพฯ ท่านบอกว่า "วันที่ 24 ก.พ. ให้ไปพบหลวงพ่อที่โรงแรมซิลเวอร์ โกลด์เด้น สุวรรณภูมิ" และ "หยาดน้ำบ่อย ๆ ช่วยได้นะลูก" หลวงพ่อกล่าวขึ้นเมื่อเรากราบลาจะเข้ากรุงเทพเมื่อสายวันที่ 16 ก.พ. 2554 (ตอนเดินทางกกลับ เราหยาดน้ำตลอดทางเลย เพื่อหมู่สัตว์ที่จะพบภัยพิบัติ)

อ้างอิง
�͡������¾Ժѵԡ�ҧ���͹����¹ 2554 ��� 
(1) - Dek-D.com > Board : ����� �����ʹ�

ฤๅษีลิงกัง วัชระธรรมปราณี
ไฟล์ที่แนบมา:
หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต1.jpg
หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต1.jpg
ขนาดไฟล์:78 KB

เปิดดู:2,628

พระจันทร์

Sonteen Theory 4
พระจันทร์มารดาแห่งโลก
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วรู้สึกขัดใจ ก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆ จะได้ไม่ผิดใจกันครับ


พระอิศวรชุบพระจันทร์มาจากนางฟ้า ๑๕ องค์ ออกมาจากภูมิกลางเข้าทางทิศใต้ผ่านแดนพระพุธ โคจรรอบเขาพระสุเมร ๒ รอบแล้วไปประจำอยู่ทางทิศบูรพา เลขโสฬส  เกิดจากธาตุไฟใหญ่ ๑ และธาตุดินแข็ง ๕ ได้ ๖ เติมกำลังนพเก้า ๙ เพราะถือเป็นดาวศุภเคราะห์  จึงได้กำลัง ๑๕




พระจันทร์บนฟ้าหมุนวนขวาดูดธาตุดวงดาวต่างๆ  มาจากคลังสมบัติของพระเคราะห์อื่นๆ มาให้พระราหูเก็บไว้ในคลัง (บ่วงสีเทาฟ้ารอบโลก)  ยานพาหนะของพระจันทร์คือม้า จะเคลื่อนที่เร็วกว่าพาหนะเทวดาองค์อื่น พระจันทร์ขี่ม้าผ่านเข้าปากพระราหูทุกเดือน   แต่ท่านไม่ยอมอม คือท่านให้ผ่านพ้นไป  คิดแบบวิชาดาราศาสตร   ก็เป็นเพราะว่าระนาบบ่วงดวงจันทร์กับบ่วงโลก  ไม่ได้ซ้อนไม่ได้ทับกัน หรือเหลื่อมกันได้นิ๊ดๆ  หลวงกล้วยบอกว่าพระจันทร์เป็น circular valve หรือวาล์ววงกลมชนิดหนึ่ง   เหมือนดาวพระเคราะห์อื่นที่หมุนๆถ่ายเทพลังงานเข้าออกได้ในเวลาเดียวกัน

คนที่อยู่ในภาวะจิตอ่อนถูกผีเข้าได้ง่าย หลายรายในวันงานพิธีสำคัญ ก็โดนตายายโนราลงประทับทรง ลุกขึ้นรำป้อพอได้ยินเสียงปี่ กลอง ทับโนรา รำได้สวยเหมือนฝึกมานาน ทั้งที่ปกติรำไม่เคยเป็น เรื่องราวจากท้องถิ่นอื่นก็มีคนเล่าเหมือนกันว่า หลายรายเต้นระบำรำฟ้อนได้ โดยที่ไม่เคยได้ฝึกหัดมาก่อน ฯลฯ หมอดูบางท่านบอกว่า คนเช่นนี้จะต้องเกิดวันจันทร์ พระจันทร์ในดวงอ่อน.. จริงหรือไม่? เรื่องนี้ท่านต้องพิสูจน์เอาเอง ที่ผมเคยเจอเองก็มีจริง แต่จะให้สรุปฟันธงแบบหมอลักษณ์นั้น.. ยัง..ยังก่อน 

ในวิชาทางโหราศาสตร์  หรือว่าทางดูหมอ หรือว่าแลเกณท์ภาษาใต้สมัยแม่เฒ่า ท่านถือว่าพระจันทร์เป็นมารดาแห่งโลก  ผู้เลี้ยงดูบุตร  ผู้เชื่อมต่อมิติ  ประตูต่างๆ ทั้งโลกวิญญาน และโลกมนุษย์ให้ต่อถึงกัน
โลกเป็นพระเคราะห์ดวงเดียวที่มีธาตุน้ำสมบูรณ์   ธาตุน้ำคือวิญญานธาตุที่สามารถเชื่อมต่อเซลต่างๆ ได้ถึงระดับจุลจักรวาล  หรือปรมณูธาตุ  โลกหมุนไปทางขวาหรือทิศตะวันออก  ชั้นนอกถึงชั้นใน  รับมวลสารชีวธาตุต่างๆ เข้ามาจากคลังพระราหู  รับแสงสว่าง/ความร้อนจากพระอาทิตย์เป็นอุตุธาตุ   เข้ามาตัดผสมผสานกับบรรยากาศ   และสรรพธาตุต่างๆในโลก  หลายระดับตั้งแต่จุลธาตุ ถึงมหาธาตุ   เชื่อมเซลต่างๆเข้าด้วยกัน เซลต่างๆสามารถสื่อสารข้อมูลและส่งมวลสารต่างๆถึงกันได้   มีสัญญาจำได้หมายรู้   เมื่อครบกระบวนการจึงก่อให้เกิดเป็นชีวิต งอกออกมา  ผุดออกมาโตออกมา  นั่นคือการวนซ้ายออกมาจากแกนเวลา  เรียกว่ามีชืวิตละครอันน่าอัศจรรย์ การปรุ่งแต่งแห่งเทวธาตุ  อมตยาวนานชั่วกาลกาเล

พระจันทร์เทวธาตุ  หรือพระเคราะห์ธาตุในวิชาดูหมอ โบราณบอกไว้ว่า ทายเกียรติ์ทายยศ ให้ทายอาทิตย์ ทายมารยาจริตให้ทายจันทร์   ก็แปลตามตัว ว่าพระจันทร์ดี ให้คุณทางจริตมรรยา ไอ้โน่น ไอ้นี่ ไอ้นั่น เป็นคอนเน็คชั่นที่ดี ไม่มีซึมเซา  การกระทำใดๆที่มีจริตงดงาม  คล่องแคล่วยอมนำมาซึ่งเสน่ห์ เป็นที่นิยมชมชอบ จันทร์ในดวงเสีย ก็อารมย์บ่อจอย ก้าวร้าว แข็งกระด้าง ขาดเสน่ห์ เข้ากับใครได้ไม่นาน มีปัญหา..  บอกเล่าโดยคร่าวๆ เป็นตัวอย่างเรื่องอารมย์ เรื่องทางโลกธาตุมีหลายเรื่อง  หลายชั้น วรรณ ครรธพ รส โอชา

จันทร์ทางทักษา เป็นกาลกิณีของพระอังคาร  คือเกิดวันอังคารๆเป็นบริวาร หรืออาจใช้ยามกาลชะตา แต่ถ้าเอาแนวผม แนวกวนส้นตีน   ผมชอบแนวนรลักษณ์ศาสตร์มากกว่า แต่ก็ใช้ทั้ง 2 แนว  เพราะขี้เกียจไปคำนวณหาเวลา  เพราะว่าเรียนตกวิชาเลข  แต่ผมก็ไม่ได้เป็นหมอดู    แต่ก็ถือว่ากาลกิณีคือตัวจบ ตัวสุดท้ายก่อนเช้า 6 น. ให้พระจันทร์เป็นเจ้า ตอนต้องการจบ(กรณีพระอังคารเป็นบริวาร) หลังจากกระทำตามวิถีพระเคราะห์อื่นทั้ง 7 องค์ครบเรียบร้อยแล้ว ทางทักษา ผมเดาเอาว่าทักษมาจากทักษิณา   กาลกิณีก็คือกาลเวลาท้ายสุด


ยก ตย.พระอังคารเป็นบริวาร (ดูรูปข้างบน )  คือคนเกิดวันอังคาร ก็ให้เริ่มกระทำทักษิณาหรือว่ากิน หรือนับ 1 ที่ตัวอายุก่อน  คือพระพุธ  ตามโบราณว่า ทายกล้าแข็งให้ทายอังคาร ทายอ่อนหวานให้ทายพุธ ทายปัญญาบริสุทธ์ให้ทายพฤหัสฯ คือให้เริ่มจากพูดจาให้ไพราะ อ่อนหวาน  พูดดีมีหลักการณ์  เรียนวิชาและคิดวิเคราะห์ให้ละเอียด รอบคอบ ตามลักษณะพระพุธ  แล้วก็วนไปๆพระ ๗ ๕ ๘ ๖ ๑  จบตัวสุดท้ายที่พระ ๒ คือพระจันทร์ ตัวกาลกิณี ก็ฝึกให้มีจริตมีมรรยาดี   มีคอนเนคชั่นประสานงานให้ดีเยี่ยม ก็จะจบได้แบบแฮบปี้เอ็นดิ้ง HPD กาลกิณีนำโขค นำความสุขมาให้ ชัยชนะก็จะเป็นของเทวดานามพระอังคารคือแข็งแกร่งและฉลาด แต่ในชีวิตจริง มนุษย์ทุกคนจะมีจุดบอดที่เทวดาองค์ใดองค์หนึ่งเสมอ บางคนก็บอดหลายองคค์ ชีวิตจึงมืดมนต์ อสุระ ไร้แสงสว่าง ทุกช์ถมทวี

พระจันทร์ทางจักรราศีเป็นเกษตรราศีกรกฏ  คือธาตุต้นน้ำ ภพพันธุโลก แปลว่ามารดาโลก มารดาครอบครัว มารดาพรรคการเมือง (เลขานุการพรรค) ฯลฯ ไล่ไปๆ ให้ครบ ๙ ชั้น บุคคล ๑๒ ราศี  ๑๐๘ พระเคราะห์ ๆ ๙ ชั้น  9 * 108 เท่ากับ 972 เรื่อง รวมทั้ง 12 ปีนกษัตริย์ ก็เอา 972 *12 = 11,664 บุคคล เอาพิกัดองศาลิปดามาคิด รวมเรื่องอื่นๆอีก 108 เรื่อง ก็เป็น หมื่นล้านถึงอนันตบุคคล ไล่ให้ครบก็เข้าใจจักรราศี เข้าใจบุคคล   เอาไปรวมกับเรื่องทักษา เทวดา ๘ องค์ อสูร ๘ องค์ เข้าใจหมดสิ้น  เป็นหมอดูได้สบาย   แต่ผมว่าควรไปทำงานอื่นดีกว่า อยู่กับปัญหาของมนุษย์  ปวดหัวตาย..ขอบอก นอกจากใจรักจริงๆ หรือชอบจริงก็หาปัจจัยใส่กระเป๋า ได้ง่าย  ไม่เสียเหงื่อ

เรื่อง ๑๐๘  มาจากพระเคราะห์เสวยอายุและเสวยแทรก และโคจรใน  12 เรือนชะตาราศี  8 พระเคราะห์แบ่งเป็น 108 นวางค์ จริงๆก็วนอยู่ที่ 3-4 - 8 - 12  วิชาดูหมอ  ใครดูหมอเป็นมักจะมีเสน่ห์ การดูหมอมีหลายวิชา คนธรรมดาแถวบ้านนอกทั่วไป   ได้ดูหมอแล้วสนุก   แม้ว่าหมอจะดูมั่วมั่งผืดมั่ง ถูกมั่ง ก็ยังดีขอให้มีคนเป็นที่พึ่ง   ที่ยอมรับฟังเรื่องราวความทุกข์ ให้ได้ระบาย ไม่ทับถมกดดันจิตใจมากเกินไป   เจอหมอดูมีนิสสัยดี ใจดี   ได้ระบายเรื่องทุกข์ที่เก็บกดไว้ไปมากๆ ก็คลายทุกข์ได้เยอะแล้ว    บางทีหมอดูก็รับทุกช์รับเคราะห์ไปแทน เพราะฟังแต่เรื่องไม่ดีมากๆ เครียดเอง  ใจห่อเหี่ยว แต่หมอดูบอกว่า   โดนเจ้ากรรมนายเวรคนที่มาดูหมอทำ

พระจันทร์ทางธาตุถือเป็นธาตุดินดิบ ดินเก่า รูปนามเก่า  คือเซลที่มีตัวตน  มีหลายระดับชั้นเช่น ผีแม่นาค รุกขเทวดา  มะเขือ แตงกวา ดินจริงๆ ศูนย์อาหาร สรรพสัตว์ ฝนที่ตก น้ำที่ไหล ฯลฯ ที่เอาไปผ่านกรรมวิธี หรือโพรเสดออกมาเป็นธาตุดินใหม่คือ ดาวพฤหัสบ่ดี

วิชาโหราศาสตร์  พระจันทร์เป็นมหาจักร์ที่ราศีเมษ   มหาอุจจ์ที่ราศีพฤษ เป็นเกษตรที่ราศีกรกฏ  ราชาโชคที่ราศีกันย์ นิจที่ราศีพิจิก ประที่ราศีมังกร แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้นบัญญัติเช่นนั้น    ก็จำต่อๆกันมา ไม่ต้องโยโสมนัสสิการ   แต่มีคนโยโสฯ คิดออก   เมื่อคิดออกก็เชื่อได้ว่าไม่บอกต่อ ถือว่าใจไม่ได้ก็ไม่สมควรรู้ ใจได้แล้วจะรู้เอง  โหราศาสตร์เป็นเรื่องเหตุและผล แต่ลึกลับ ซ่อนกลแต่คนธาตุน้ำลึกระดับสีทันดรมหาสมุทร  จะซ่อนยังไงก็หาจนเจอครับ

พระจันทร์ยังเป็นนาฬิกาบอกเวลา คือ บอกวันขึ้นแรม เดือน ปีนกษัตริย์ ปฏิทินจีนไม่ใช้ขึ้นแรมนับเป็นวันที่   อย่างคนเกิดวันที่ ๑๙ พย.แรม ๔ ค่ำ ก็คือเกิดวันที่ ๑๙ อาทิตย์ และ ๑๙ จันทร์ พระจันทร์หมุนรอบโลกใช้เวลา ๒๘ วันเศษ จึงต้องมีการทดให้ตรงกับ โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์เพื่อให้ ปีเดือน ตรงกัน  จึงต้องมีปี ปกติวาระอธิกวาระ ปกติมาสและอธิกมาส เพิ่มเข้ามา

เดือนทางจันทรคติมี 12 เดือน
ปกติวาร อธิกวารคือ  เดือนคู่มี 30 วันคือมีถึงวันขึ้นและแรม ๑๕ ค่ำครบ 2 ปักษ์  เดือนคี่ เดือน ๑-๓-๕-๗-๙ -๑๑ จะมีแค่ 29 วัน คือวันข้างแรมสุดท้ายจบที่ แรม ๑๔ ค่ำ  ปีอธิกวาระจะเพิ่มแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๗ มาอีก ๑ วัน

ปกติมาส อธิกมาสคือ ปีปกติมาสจะมีเดือน ๘ หนเดียว ปีอธิกมาส จะมีเดือนแปด  2 หน
พอเป็นกษัยครับ  ทฤษฎีกวนส้นตีน  เขียนขึ้นมาเล่นๆกวนชาวบ้าน และฝากเฟสฯ ไว้เป็นหลักฐานครับ

Back to ทฤษฎีส้นตีน 1   forword to ทฤษฏีส้นตีน 5

พระราหู

sonteen theory  3
พระราหู พระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลก
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆ จะได้ไม่ผิดใจกันครับ

พระราหู สัญลักษณ์เลข ๘ ถือเป็นเจ้าโลก เจ้าคน เจ้ามือ เจ้าฯลฯ  ยังพบอยู่แต่ที่โลก  ที่จักรวาลอื่นดาวอื่นยังไม่เจอ นักวิทยาศาสตร์หาแล้วหาอีกจนตาเข ตาพลิก หมดเงินลงทุนไปเยอะ   ได้เจอแต่ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ กับเศษหิน เศษฝุ่นธุลี ที่ไร้ซึ่งโลกธาตุที่มีความปรารถนาหรือความอยากอันซับซ้อน

พระราหูจะทำอุตราวัตรเข้าราศีกรกฏ วันนี้ วันที่ 4 สค. 60 คือท่านราหูปี ย้ายเข้าราศีปู ย้ายจากสิงห์ไปกรกฏ  เข้าไปอยู่ราศีธาตุต้นน้ำ จะมีการบูรณาการเรื่องธาตุน้ำใหม่  จะเข้าไปทำเรื่องตาม ความหมายของต้นน้ำ  คือผู้ต่อเซลต่างๆ ในระยะริเริ่ม   เช่นระบบสื่อสารใหม่ๆระบบโซเชียลใหม่    แอ๊ปใหม่ๆ สายเคเเบิ้ล ใยแก้ว ดาวเทียม การลงทุนสร้างเครือข่ายใหม่ๆ  

ออกมาชั้นนอกอีก   คือถนนหนทาง อ่างเก็บ น้ำ คลองส่งน้ำ ฯ ราศีกรกฏยังเป็นราศีพันธุโลกด้วย  งานแม่บ้าน เลขาธิการ  เครื่องอุปโภคบริโภค เกษตรอินทรีย์ ก็จะบูมด้วยเช่นกัน  ผู้ชื่นชอบการลงทุน เพื่อความร่ำรวย เตรียมตัว วางข่ายดักปลาเงินตามเรื่องที่กล่าวไว้ได้ครับ...ตรงนี้เขียนตามลักษณะธาตุ บวกราศีนิ๊ดนึง  ผิดถูกไม่รู้  ต้องดูเอาเอง นานๆ

พระราหู นำภาพจากกูเกิ้ลมาตัดต่อ ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์แน่นอนครั
ตามปฏิทินโหร พระราหูคือบ่วงที่คล้องพระจันทร์ไว้กับโลกไม่ให้ไปไหน โดยจะเป็นวงรี ด้านบนส่วนหัวคือตำแหน่งเลช ๘ ในปฎิทินโหร  ด้านตรงข้ามคือตูดหรือหาง   เมื่อระนาบของบ่วงผู้บัง กับผู้ถูกบัง (บ่วงโลกกับบ่วงจันทร์ ) ตั้งทับกันพอดีหรือหมิ่นๆ  พอดวงจันทร์เดินเข้าไปอยู่ตรงหัวบ่วงหรือตูดบ่วง ก็เรียกว่าอม จะอมทิตย์อมจันทร์ก็ไล่ตรวจเช็คดู ว่าโลกอยู่ตรงไหน  ตามวิชาเรขาคณิต ตรงนี้รู้พอเป็นเลาๆเพราะเป็นเรื่องโหราฯส้นตีน ไม่ใช่วิชาดาราศาสตร์ครับ

บ่วงนี้จะใช้เวลารอบละ 18 ปี จึงครบทวาศมลฑล รอบโลก 12 ราศี โคจรราศีละ ๑ ปีครึ่ง ๑๒ ราศีก็เท่ากับ 12 + 6 = 18 ปีพอดี   

ปีครึ่งก็ย้ายราศีที  ให้หมอดู หมอยา หมอผี หมอพระได้ทำนาย   ได้คาดการณ์โรคภัย สะเดาะเคระห์ ทำพิธีสวดเสริมดวงชะตา  บางหมอก็บูชาด้วยของดำ เพราะคิดว่าท่านโปรดของดำ แบบอมพระอาทิตย์ดำ พระจันทร์ดำ ฯลฯ ก็ให้พอได้มีการมีงานทำกันทั่วหน้า  อย่าได้ตำหนิหรือด่ากัน  เป็นองอวตาร  มนุษย์เป็นทรัพย์ของท่านพระราหูกันทุกคน

ช่วงที่พระราหูอยู่ปลายราศีสิงห์ 24 -25 กค.2560 ทำให้น้ำลงที่หัวหิน ประจวบฯ จนเห็นโขดหิน กรมอุทกฯบอกทีหลังว่าน้ำลงแบบนี้ทุก 18 ปี อย่าได้ตื่นเต้นตกใจ งมงาย  แต่ชาวบ้านที่เลี้ยงปลากระซังเจ๊งไปหลายล้านบาท   เพราะไม่รู้จักพระราหู พระราหูจะย้ายออกจากราศีสิงห์ เข้าราศีกรกฏวันที่ 4 สค. 60  ออกจากสิงห์ เข้าราศีปู คือตัวราหูปี เป็นราหูใหญ่ ที่ใช้ได้กับคนและบ้านเมือง  ที่ใช้กับคน คือราหูปี ราหูเดือนราหูวัน

การบูชาพระราหูแนวหลวงกลัวยคือการสร้างสมดุลย์ให้โลก   อย่าทำลายวงจรธรรมชาติโลก   อย่าทำให้โลกร้อนมากเกินไป  ลดการสร้างมลภาวะพิษให้แก่โลก การบูชาแนวอื่นๆ ที่ไม่ทำให้โลกเดิอดร้อน สังคมเดือดร้อน ตัวเองเดือดร้อนถือว่าดีทั้งนั้น

ราหูในทางโหราศาสตร์  คือเจ้าโลก ผู้ยิ่ใหญ่แห่งโลก ซึ่งก็คือความลุ่มหลงเมามัว เจ้าแห่งโลกธาตุ โลกธาตุคือสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอจ.ส.แสงตะวัน  ท่านเขียนหนังสือบอกไว้ว่า  พระราหูมี 8 ภาคเรียกอัฐฐคชนาม  มี 6 ตับ ฯลฯ ซับซ้อน แต่ท่านก็ไม่ได้บอกอะไรมากกวานี้  อาจจะบอกเฉพาะลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด  ผมก็นั่งเทียนระลึกชาติดูก็พอรู้ว่าราหูคืออะไร  แต่ก็อาจรู้ผิดๆ ซึ่งก็ช่างมันขอให้ได้มโนเอง มันส์ดี ตำรวจไม่จับ

พระราหูคือผู้รับพลังงานจากพระอาทิตย์  รับธาตุ ๔ จากเทวเคราะห์ทั้ง ๘ นำมาเนรมิต ปั้น หรือสร้างจักรวาลอื่นเซลอื่น รูปสมมุติอื่นตามจักรราศี ที่โลกหมุนไป เพิ่มได้หลายพันล้านเซลในร่างกายคน  สร้างร้านค้าสาขาอื่นเพิ่มในระดับเซลสังคม ประเทศ   สร้างได้สารพัดโลก สัตว์ พืช เป็นชั้นๆ ในระดับจุลจักรวาล  จักรวาลถึงมหาจักรวาลที่คาดการณ์ไม่ถึง นี่คืออำนาจพระราหู


พระราหูให้คุณทางลุ่มหลงมัวเมา  เมาทางไหนหลงทางไหน ก็จะเน้นการกระทำตามตรงที่อยากนั้น  ซึ่งก็แล้วแต่ราหูในพื้นดวง   แต่พระราหูมักนำไปใช้กับความร่ำรวย  รวยคือทำให้มีมาก     ดูว่าท่านอยู่กับพระเคราะห์องค์ไหน ราศีไหน ก็ตรงนั้น   พระราหูองค์ใหญ่ประทับอยู่กับใคร คนนั้นก็รวย โลกปัจจุบันความร่ำรวยคือคนมีเงิน มีทรัพย์สินมากมาย     จริงๆแล้วการมีแค่นั้นถือว่ารวยปลอม  รวยจริงต้องมีความสุข  มีความรู้ ความสามาถ มีความรัก มีธรรมด้วย    รวยมีแต่เงินมีแต่ทรัพย์ ยังเป็นระดับเศรษฐีไม่ได้  ถือว่ายังรวยปลอม  รวยไม่ครบ

พระราหูเมื่อได้ทรัพย์มาส่วนหนึ่งก็ต้องส่งคืนพระอาทิตย์ หมายถึงพระราหูดี มีเงินมีทรัพย์แล้วต้องจ่ายภาษีให้หลวง  ให้พระอาทิตย์ได้ใช้ดูแลจักรวาล หรือดูแลปกครองบ้านเมือง  เพื่อเป็นแหล่งพลังงาน และแสงสว่างให้แก่ดาวเคราะห์  หรือเทพเคราะห์อื่นได้นำไปใช้ปรุงแต่งธาตุ   เป็นวัฏจักรหรือพลังหมุนเวียนอันเป็นอมตะ คือการพึ่งพาอาศัย ส่งถ่ายส่งผ่านกันเป็นชั้นๆ มึงกินแล้วถ่าย กูเป็นเครื่องจักรกลอีกแบบมากินต่อ เสร็จแล้วก็ขี้ออกมา เป็นอาหารให้จักรกลชีวอื่นกินต่อ   ซับซ้อนหลายชั้น สุดท้ายก็ครบวงจร กลับมาให้ตัวเดิมได้กินขี้ตัวเองในอดีต

นอกจากราหูที่เป็นบ่วงตรงนี้แล้วยังมีราหูอื่นๆ ที่ทำให้มืด ให้มัว ให้เบลอ ฯ ไปดูเทวพระเคราะห์ในปฏิทิน ว่าอยู่ภาคกลางวันหรือกลางคืน  อยู่กลางวัน ก็ถูกพระอาทิตย์อบรมดีแบบให้มีเกียรติ์ แบบเทพหรือไปเป็นเสนาอำมาตย์รับใช้พระราชามหากษัตริย์ สังเกตุดีๆจะเห็นสีองค์เทพเปล่งมาให้เห็นยามเช้าตรู่หรือยามเย็น  มิได้รับใช้ราชาพ่อค้าวานิช  หรือรับใช้เอกลักษณ์ของตัวเองแบบดวงดาวยามค่ำคืน

พอก่อนครับ  ตอนหน้าเรื่องพระจันทร์
กลับไปตอนที่ 1  sonteen theory  ทฤษฎีส้นตีน 1              ทฤษฏีส้นตีน 4

เทวดา ๘ องค์

sonteen theory ทฤษฎีส้นตีน 2  
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆ จะได้ไม่ผิดใจกันครับ

เทวดา ๘ องค์  ทฤษฎีนี้จะกล่าวถึง ๘ เทวดาเป็นหลัก  เทวดาเน้นว่าเป็นองค์ไม่ใช่รูป มีแกนกลางเขียนไว้ด้วยเลข  ๙  เทวดาคืออะไรก็คล้ายพระเจ้าคืออะไร

เทวดาแนวบุคลาธิษฐาน อันมีหิริโอตตัปป  ความละอายความเกรงกลัวต่อบาป  เป็นคุณธรรมเบื้องต้น ที่ทำให้มีความเจริญทางจิต ทำให้จิตเบาสะอาดได้นั้น ฟังหลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าจะดีกว่าครับ (บุคลาธิษฐาน หมายถึง การเปรียบเทียบให้เป็นบุคคลเพื่อง่ายต่อการอธิบายความ )

เทวดาที่หลวงกล้วยจะกล่าวถึง  เป็นแนวโลกธาตุ แนวธรรมชาติรวมทุกสิ่งทุกอย่างเป็นหลัก
เทว พลังเทว คือสภาวของพลังงานอันประณีตที่ควบคุมมนุษย์  ทั้งในด้านอารมย์ ความคิด และการเสื่อมการเจริญ การประสบโชคดีโชคร้ายต่อวิถืชีวิต เป็นต้น



โหราศาสตร์ คือวิชาว่าด้วยเรื่อง 2 ด้านหรือคู่สำพันธ์ของโลก  เรื่องระดับโลกจะมี 2 ด้านเสมอ เหนือโลก สูงกว่าโลกจึงมีด้านเดียว มาจากคำว่าโหราคือ 2 ด้าน ศาสตร์คือวิชา   จึงหมายถึงวิชาว่าด้วยความสำพันธ์ของพลังงาน 2 ด้าน  ทีแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันสร้างโลก  สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั่วไปกับทุกสาขาวิชา

ตัวอย่าง 2 ด้านคู่ตรงข้ามเช่น เลข 1/0 เทวอสูร หยาง/หยิน สว่างมืด ร้อนเย็น ออกเข้า ตัวผู้ตัวเมีย ตัวพระตัวนาง ขึ้นลง ออกเข้า ขั้วบวกขั้วลบ เอลนิญโญลานิญาฯลฯ

ธาตุ ๔
ธาตุ ๔ คือธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ 4 ธาตุ เพิ่มคู่ใส่ลักษณะตัวผู้ตัวเมียเข้าไป  จึงได้เป็นธาตุ ๘ ตามศัพท์ "โหรา"มี ๒ ด้าน องค์ไหนเป็นหยางไหนเป็นหยิน พิจรณาจากลักษณะการดำเนินไป เข้าหรือออก  อยู่นอกหรือใน ตามรูป ของเรื่องนี้  

ธาตุ ๘   คือ เทวดา ๘ องค์มาจากธาตุ ๔ หรือมหาภูตรูป ๔   คือธาตุดิน  น้ำ  ลม ไฟ  รวมสี่คู่   เขียนเป็นสัญลักษณ์เลขไทย  ไฟ ๑๗ ดิน ๒๕ ลม ๓๘ น้ำ ๔๖ /(๑ อาทิตย์ ๗ เสาร์)  (๒ จันทร์ ๕ พฤหัสฯ) (๓ อังคาร ๘ ราหู)  (๔ พุธ ๖ ศุกร์ )

ธาตุ ๑๖  คือธาตุ๘ สองด้าน ด้านมืดกับด้านสว่าง เป็นยังไงก็คิดเอาเองครับ

ธาตุ ๔  คือสิ่งที่ไม่ตาย คือสิ่งที่แยกต่อไม่ได้อีกแล้ว เป็นสิ่งที่เป็นอมต   โลกธาตุคือสิ่งที่ประกอบจากธาตุ
โลก  แปลว่า  สิ่งที่ต้องแตกสลาย คือแตกคืนกลับเป็นธาตุ ๔ หรือคืนธาตุเดิม ธาตุตั้งต้น
โลกธาตุ หมายถึง ธาตุประกอบกันเป็นโลก คติโบราณหมายถึงสิ่งมีชีวิตทั่วไป มี พรหม เทวดา ชาวสวรรค์ มนุษย์ เดรัจฉาน พืชสัตว์นรก เทวอสูรฯลฯ เป็นสิ่งที่ต้องแตกสลายคืนกลับสู่ธาตุเดิม เมื่อครบกำหนดเวลาหรืออาจจะแตกดับก่อนตามเหตุปัจจัย


สว่าง กับ มืด   คือ 2 พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ในทุกภพ ทุกจักรวาล แต่จะกล่าวเฉพาะเรื่องบนโลก
ด้านสว่าง/สุร =   พระอาทิตย์เป็นหัวหน้าทางจักรวาล  สุระ แปลว่า ผู้กล้าคือเทว คือมีแสงสว่าง ระดับมนุษย์คือมีปัญญา มีควมเจริญในธรรม เบาจิต เบาใจ สะอาด สงบ

ด้านมืด/อสุร =  พระราหูคืออสุระ   คือโลกผู้ยิ่งใหญ่  ผู้ทำให้เกิดความมืด ๙ ชั้น เพราะมืดจึงมองเห็นดวงดาวระยิบระยับ ดวงดาวระยิบระยับ คือแสงสีที่ปรุงแต่งโลก  ถ้าไม่มืด ถ้าไม่ลุ่มหลงก็ปรุงแต่งเรื่องราวอันใดไม่ได้ ในทางธรรม คือสุขแบบลุ่มหลงเพลิดเพลิน สุขแบบต้องแบกหาม หนัก

ระดับมนุษย์ สร้างโลกจากความ โลภ โกรธ หลง  อารมย์ หนักจิต แบกภาระ ครุ่นคิดหาโลกทรัพย์  มีอำนาจในการสร้างสรร มายาคติ  นวัตกรรมต่างๆต่างๆ

พระอาทิตย์ เทวดาองค์ที ๑
พระอาทิตย์ เลข ๑ ผู้ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าจักรวาล ในทางดาราศาสตร์ แต่ทางโหราศาสตร์มีกำลังแค่ 6 น้อยที่สุดในบรรดาเทวทั้ง ๘  ทำไมบูรพาจารย์จึงได้บัญญัติกำลังไว้น้อย    อาจเป็นเพราะเรื่องการปรุงแต่งโลกพระอาทิตย์ไม่ใช่ตัวการหลักหรือองค์เทพหลัก   พระอาทิตย์มีแสงสีแดงสด แสงสีทอง หรือมี ๗ สี

ระดับจักรวาล ระดับตาเนื้อกายเนื้อสำผัสได้ คือดวงอาทิตย์  ผู้ทำให้เกิดการบองเห็นและสำผัสร้อนเย็น  คือประธานผู้จ่ายแสงสว่าง ความร้อน กระตุ้น ให้พระเคราะห์อื่น ได้ทำงาน  ลมได้พัด น้ำตาน้ำลายได้ไหล เป็นต้น คือกระให้จักรราศี ให้พระเคราะห์ทำงานได้   เป็นประธานหรือผู้เซ็นคำสั่ง

ระดับโลก แยกได้เป็นหลายชั้นซับซ้อน  เพราะโลกมีความซับซ้อนของเครื่องจักรกลชีวิตมากมายสุดจะพรรณา หลายระดับ ตั้งแต่พรหม เทวดาลงมา มนุษย์ถึง นรก

ในวิชาการทำนายทายทัก หมายถึงโรงไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  แหล่งจ่ายพลังงานจากภายนอกทั่วไป ฯ
มีระดับคุณภาพทางโหราศาตร์ดวงดาวเป็น มหาอุจจ์ เกษตร ราชาโชค ประ นิจฯ


ระดับครอบครัว หมายถึงหัวหน้าครอบครัว ผู้เลี้ยงดูสมาชิก ระดับหน่วยงานหมายถึงหัวหน้าหน่วยงาน

ระดับธาตุ หมายถึงธาตุไฟ  ธาตุไฟคือความร้อนระดับกายสังขาร ๔ กอง  ระดับอารมย์คือความปรารถนาอยากทั้ง ๑๐๘ ประการ  คือหัวหน้า คือผู้มีเกียริ์ตยศ หยามไม่ได้ อยากทางไหนต้องประสมกับเทวาพระเคระห์อื่น

แต่เมือพระอาทิตย์มืด เป็นภาวะอสูรอาทิตย์ หรือถูกทำให้มืด กลายเป็นแสงสว่างที่มืดมัว เป็นเป็นภาวะเกียรติ์ที่เป็นโทษหยิง ทรนง วางตนอวดตน ทิฎฐิดื้อ ยกตนข่มท่าน หรือถูกใสร้ายป้ายสีให้เสื่อมเสียพระเกียรติ์ หรือว่าเป็นใหญ่มีเกียรติ์ ในหมูคนพาล หรือหัวหน้าโจร  หัวหน้าพ่อค้าขายของเถื่อนเป็นต้น

ลองสังเกตุเทวดาองค์ที่ ๑ ในตัวท่านเองว่าเป็นแบบไหหน เป็น เทวดาฝั่งเทพ หรือว่าฝั่งอสูรเทพ

เอาพอเป็นกษัยครับ .. เอาไว้ตอนต่อไป        คลิกกลับไปทฤษฎีส้นตีน 1        ทฤษฏีส้นตีน 3