นิทานดูหมอ หมอดู ตอนที่ ๑
เรื่องหมอดู เรื่องดูดวง หรือการแลเกณท์ศัพท์โบราณปักษ์ใต้ เป็นเรื่องสัมพันธภาพระหว่างเทพฯกับมนุษย์ สมัยก่อนโน้นจะเป็นหน้าที่ของพราหมณ์ ของวรรณพราหมณ์ ต่อมาก็เฉพาะในวัง พระตามวัด สมัยนี้หมอดูเยอะมาก เป็นยุคทองของหมอดูเพราะการเข้าถึงวิชาความรู้ทำได้ง่ายไม่เหมือนสมัยก่อน ยากที่คนธรรมดาจะได้เล่าเรียน ก็ไม่รู้มีท่านใดเป็นพราหมณ์ หรือมีคุณธรรมความเป็นวรรณพราหมณ์บ้างหรือเปล่า ผมขอเขียนถึงเรื่องราวแนวนี้เสียหน่อย โดยขอเวียนๆรอบนอกเวทีก่อนนะครับ
วิชา ดูหมอดูดวง สายต่างๆ
๑. การดูหมอแบบไม่มีวันตาย ดูแบบเสี่ยงทาย ใช้จิตอธิษฐาน แนวที่มีมานาน จะคงอยู่ตลอดกาลต่อไป เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในสมัยก่อนโน้นจำวัน เดือน ปี เกิดไม่ได้ และ ไม่ค่อยคิดจะจำ หรือไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองเกิดวันไหน และสมัยนั้นยังใช้เวลาจริง ยังไม่ใช้เวลานาฬิกา ก็สะดวกง่ายดี ชีวิตสังขารยังไม่ซับซ้อนการดูหมอแนวนี้หากตั้งจิตตั้งใจดีๆ อาจแม่น กว่าการคำนวณ ที่ขาดความรู้ความเข้าใจที่แท้จริงก็ได้ ตรงนี้จะบอกว่าเรื่องจิตเป็นเรื่องที่ไม่ตาย
การดูหมอสายนี้ เช่นการแทงศาสตราของชาวปักษ์ใต้ในสมัยก่อน การเสี่ยงเซียมซี การดูไพ่ ไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรห์ เสี่ยงทายลูกเต๋า เสี่ยงทายโอเรกุรัม การทำนายฝัน การดูบ้าน ดูรถ ดูบัตรประชาชน ฯลฯ
๑. การดูหมอแบบไม่มีวันตาย ดูแบบเสี่ยงทาย ใช้จิตอธิษฐาน แนวที่มีมานาน จะคงอยู่ตลอดกาลต่อไป เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในสมัยก่อนโน้นจำวัน เดือน ปี เกิดไม่ได้ และ ไม่ค่อยคิดจะจำ หรือไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองเกิดวันไหน และสมัยนั้นยังใช้เวลาจริง ยังไม่ใช้เวลานาฬิกา ก็สะดวกง่ายดี ชีวิตสังขารยังไม่ซับซ้อนการดูหมอแนวนี้หากตั้งจิตตั้งใจดีๆ อาจแม่น กว่าการคำนวณ ที่ขาดความรู้ความเข้าใจที่แท้จริงก็ได้ ตรงนี้จะบอกว่าเรื่องจิตเป็นเรื่องที่ไม่ตาย
การดูหมอสายนี้ เช่นการแทงศาสตราของชาวปักษ์ใต้ในสมัยก่อน การเสี่ยงเซียมซี การดูไพ่ ไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรห์ เสี่ยงทายลูกเต๋า เสี่ยงทายโอเรกุรัม การทำนายฝัน การดูบ้าน ดูรถ ดูบัตรประชาชน ฯลฯ
๒.สายเลข สายคำนวณ ก็มีมานานแล้วเช่นกัน เริ่มแรกก็ใช้วันขึ้นแรม เดือนปี ตามหลักจันทรคติ อาจเห็นเป็นแผนภูมิแบบกราฟ แบบเลข ๗ ตัว ๙ ตัว แบบ ฯลฯ ต่อมาก็เป็นวิชาโหราศาสตร์ ใช้คำภีร์สุริยาตร์ คำภีร์? สร้างปฏิทินดวงดาว พระเคราะห์ ๗ ดวง ดาวหลายดวงฯ และโปรแกรมคำนวณและทำนายมากมาย ตั้งแต่พื้นๆ ถึงซับซ้อน มีให้โหลดมาดู มาศึกษาได้เลยครับ ปัจจุบันก็มีของมหาหมอดูฯ พลโชติ และฯ เสียเงินไม่กี่ร้อยก็ได้ฉบับเต็มศึกษาและทายได้ตลอดชีพ หรือแบบฟรีๆที่ขาดบางส่วนก็ได้ โดยทั่วไป ก็เห็นว่าดี อยู่ที่พื้นความรู้เดิมด้วย ว่าเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตแค่ไหน
สายเลขแบบอื่นๆ ที่ไม่ถือว่าคำนวณ มีเยอะแยะไปหมด เช่นดูเลขโทรศัพท์ เลขบัตรประชาชน เลขทะเบียนรถ เลขที่บ้าน และเลขอะไรๆที่เห็นที่เจอเอามาบวกมาลบมา ? ก็เป็นอันพยากรณ์ได้ทุกอย่าง ถือว่าเก่งมากครับ ขั้นเทพฯ
๓.สายนรลักษณ์ศาสตร์ ดูรูปที่เห็น เช่นการดูโหงวเฮ้ง ทักษาชื่อ ลายมือ ลายตีน ไผปาน แผลเป็น อวัยวะภายนอกร่างกายต่างๆ ฮวงจุ้ยบ้านเรือน ที่ดิน ก็นำมาทำนายตั้งเป็นหลักทฤษฎีต่างๆขึ้นมากมาย
นอกนี้ ยังมีการทำนายชีวืตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ โดยใช้ข้อมูลจากโครโมโซม ดีเอ็นเอหรือยีนส์ ตรวจรหัสพันธุกรรม 46 แท่ง ทำนายชีวิต ที่ว่ากันว่าแค่เส้นผมเส้นเดียว หรือเศษหนังกำพร้าที่หลุดออกมา ก็สามารถรู้ความเป็นไปของชีวิตในอนาคตได้ (เคยเป็นข่าวในลักษณะนี้เมื่อราว 10 กว่าปีกอน ) ซึ่งเทคโนโลยีนี้ จริงๆแล้วไม่รู้พัตนาไปถึงขั้นไหน ไม่ได้ศึกษาติดตาม น่าจะถูกกำหรืออมไว้โดยเพนตาก้อน หน่วยงานสูงสุดของประเทศเจ้าโลก อเมริกา
แล้วการดูหมอแบบไหน จะถูกต้องกว่ากัน ดีกว่ากัน คนนิยมมากกว่ากัน หมายถึงคนธรรมดาทั่วไป
มีคติโบราณบทหนึ่งกล่าวว่า / ปากเป็นเอก เลขเป็นโทโบราณว่า หนังสือตรีมีปัญญาไม่เสียหลาย ถึงรู้มากไม่มีปากลำบากกาย มีอุบาย พูดไม่เป็นเห็นป่วยการ /
ท่านสรุปว่า เลขเป็นรอง วาทะศิลป์ /ศิลปศาสตร์ เหนือกว่า ภาคคำนวณ คนรู้และเข้าใจชีวิต จิตวิทยาสูง พูดเก่ง อย่างนักการเมือง ยังไงก็ได้เปรียบนักคำนวณ รู้นิดแต่ไหลลื่นไปได้สบายน่าเชื่อถือกว่า แต่คนส่วนใหญ่ก็อยากเจอแบบแม่นเป๊ะๆทั้งนั้น แบบไหนก็ได้ แต่อย่าคิดค่าดูแพงนักครับ
มหาปลีสีทันดร
นิทานดูหมอ หมอดู ๓ | นิทานดูหมอ หมอดู | นิทานดูหมอ หมอดู |
นิทานดูหมอ หมอดู | นิทานดูหมอ หมอดู | นิทานดูหมอ หมอดู |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น