พระธาตุศรีสองรัก

พระธาตุศรีสองรัก  เป็นสถานที่สำคัญที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ก็ได้ไปเที่ยวและได้ไปทำความเคารพโดยบังเอิญ จากการไปตระเวณเยี่ยมญาติ เพื่อนๆที่ภาคเหนือและอิสาน เมื่อ เมษายน  2555และก่อนจะเข้าไปหาน้องชายพ่อตาที่ค่ายศรีสองรัก จ.เลย ต้องขับรถผ่าน อ.ด่านซ้าย คุณ อาบอกเลยว่า ให้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด เลยก่อนนั่นคือ พระธาตุศรีสองรัก นั่นแหละผมและครอบครัวจึงได้มีโอกาสได้เข้าไป

ตอนเดินเข้าไปที่แรก ลูกชายใส่เสื้อยืดสีแดงอยู่ แม่ค้าขายล็อตตารี่ในบริเวณนั้นบอกว่าห้ามใส่สีแดงขึ้นไปเด็ดขาด  ที่แรกนึกว่ามีปัญหาการเมืองหรือเปล่า   เขาบอกว่าที่นี่ยึดถือกันมานานแล้วหละลุง เอ้อ นั่นแหละจึงได้เปลี่ยนชุดซื้อดอกไม้ธูปเทียนเดินขึ้นไปนมัสการ    ที่นี่มีคนมากราบพระธาตุเรื่อยๆ

ระเบียบในการไหว้หรือเคารพเขาให้เดินเวียนซ้าย 3 รอบผมก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องพิธีกรรมเท่าไร่ นึกเข้าใจว่าการไหว้พระ  การเข้าไปหาพระที่เคยเจอมาจะต้องทำทักษิณาวัตรหรือวนขวาเท่านั้น  แต่เรื่องพระธาตุที่นี่ไม่เคยศึกษามาก่อน ทำความเคารพโดยการวนซ้าย


ประวัติพระธาตุศรีสองรักพระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย นับเป็น พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเลย โดยตัวองค์พระธาตุนั้น มีศิลปกรรม การก่อสร้างแบบ ล้านช้าง ตัวเจดีย์สร้างแบบก่ออิฐถือปูน สูงประมาณ 30 เมตร

พระธาตุศรีสองรัก ได้สร้างขึ้นในแผ่นดินของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ผู้ครอบครองกรุงศรีอยุธยาแห่งอาณาจักรสยาม สมัยนั้น และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทร์) แห่งอาราจักรล้านช้างสมัยนั้น เพื่อเป็นสักขีพยานในการทำสัญญาทางพระราชไมตรี     และเป็นด่านกั้นเขตแดนของสองพระนครในสมัยโน้น

ทั้งนี้เนื่องจากในระหว่างที่กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ครองราชสมบัติ   ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ เพราะพม่ามีกษัตริย์ที่เข้มแข็งในการสงครามปกครองคือ  พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้  และพระเจ้าบุเรงนองได้ยกทัพมารุกรานกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุตหลายคราว  สมเด็จพระมหาจักรพรรดิกับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช   จึงทำไมตรีกัน เพื่อร่วมกันต่อสู้กับพม่า และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีกันครั้งนี้    ได้ทรงร่วมกันสร้างพระเจดีย์ขึ้นเป็นสักขีพยานจึงได้ขึ้นชื่อว่า "พระธาตุศรีสองรัก "

ตามตำนานกล่าวไว้ว่าได้สร้างขึ้น ณ ที่กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำโขงกับแม่น้ำน่านบนโคกไม้ติดกัน เริ่มสร้างแต่ พ.ศ. 2103 ตรงกับปีวอก โทศก จุลศักราช 922 และเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2106 ตรงกับปีกุล เบญจศก จุลศักราช 925 ในวันพุธขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 และได้ทำพิธีฉลองสมโภชในวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 การสร้างพระธาตุศรีสองรัก นับเป็นสักขีพยานในความรักใคร่ของชนชาติเผ่าลาวในดินแดนล้านช้างสมัยนั้น มาตั้งแต่โบราณการเป็นอย่างดี พระธาตุศรีสองรักนี้ ประชาชนในท้องที่จังหวัดเลยและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือ เป็นปูชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในวันเพ็ญเดือน 6 จะการทำพิธีสมโภชและนมัสการพรเจดีย์ขึ้นทุกปีจนถือเป็นประเพณีตลอดมาจนทุกวันนี้


พระธาตุศรีสองรัก นับแต่สร้างมาจนถึงปัจจุบันนี้นับได้ 400 ปีเศษ นอกจากเป็นปูชนียสถานสำคัญของอำเภอด่านซ้าย ยังเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดของจังหวัดเลยอีกด้วย

หากเราเดินขึ้นไปด้านบนของวัดพระธาตุศรีสองรัก ก็จะพบเป็นเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐถือปูนมีฐานเป็นเหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละประมาณ 8 เมตร สูงประมาณ 32 เมตร อยู่ห่างจากที่ตั้งจังหวัดเลยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1กิโลเมตรและอยู่ห่างจากที่ตั้งจังหวัดเลยไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 83 กิโลเมตร องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุศรีสองรักบนเนินริมน้ำหมัน ซึ่งเป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุพำนักอยู่ในวัด นอกจากองค์พระเจดีย์แล้ว ถัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีโบสถ์ 1 หลัง ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปนาคปรก 1 องค์ และพระพุทธรูปอื่น ๆ อีกบ้าง และถัดองค์พระเจดีย์ไปทางทิศตะวันตกมีศิลาจารึก 1 แผ่น ซึ่งจารึกตำนานการสร้างพระธาตุศรีสองรักด้วยอักษรธรรมอยู่ด้วย


                    จ้าพ่อกวน ถาวรและเจ้าแม่นางเทียม คำฝูงผู้นำประกอบพิธีกรรมคนปัจจุบั 

ทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ชาวด่านซ้ายหรือ “ลูกผึ้งลูกเทียน” จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักขึ้นโดยจะนำ “ต้นผึ้ง” (ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่เป็นทรงหอปราสาทขนาดกว้าง 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลม ๆ บาง ๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตรงกลางติดดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็ก ๆ ต่างเกสรดอกไม้สีสดใส) เทียนเวียนหัว (เทียนแท่งที่ฟั่นยาวพอคาดได้รอบศีรษะ) มาถวายองค์พระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุศรีสองรักขึ้นทุกปี

วัดเนรมิตวิปัสนา  
มีเรื่องที่จะว่าแปลกก็ได้ หรือวาไม่แปลกก็ได้ คือวันนั้น ที่พระธาตุศรีสองรักหลังจากไหว้พระธาตุเสร็จแล้วปรากฏว่าแว่นสายตาผมหายต้องใช้ใส่ขับรถ


เสียด้วยซี คิดแล้วน่าจะหายตอนก้มกราบพระธาตุ จึงชวนลูกไปเดินวนหาดู ก็ได้เจอเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาถามว่าพี่หาอะไร บอกไปแล้วเขาเอามาให้และบอกว่าคาดแล้วว่าน่าจะเป็นของพี่ คุยกันครู่หนึ่งน้องเขาบอกว่าให้ผมไปเที่ยววัดเนรมิตรวิปัสนาก่อน เพราะสวยมาก ผมบอกว่าคงเอาไว้ขากลับดีกว่าเพราะต้องไปที่ค่ายศรีสองรักกลัวจะค่ำก่อน กลางคืนตาไม่ดีไม่อยากขับรถ แล้วผมก็ขับรถไปตั้ง GPS เรียบร้อย มุ่งตรงไป จ.เลย ค่ายศรีสองรักโดยด่วน ขับไปยังไงไม่รู้ GPS พาวนกลับมาที่หน้าวัด เนรมิตวิปัสนา



พอดี แปลกใจมาก คุยกับเมียว่าสงสัยเขาจะให้เรามาที่นี่ก่อนแน่ๆ จึงตัดสินใจเข้าไปในวัดก่อน ไปจ .เลย ค่ำก็ค่ำ .. เดินเข้าไปสวยจริงๆครับ แล้วยังได้ไปเจอน้องชายคนนั้นที่บอกให้มาเที่ยว เลยขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ถือว่าแปลกดี


มาแล้วก็ถ่ายรูปมานิ๊ดหน่อย เป็นวัดที่สร้งได้สวยงามครับ  รายละเอียดต่างๆยังไม่ได้ไปค้นหาข้อมูล

ไม่มีความคิดเห็น: