ผีชิน

ผีชิน กับเรื่องคนเล่นชิน  เป็นเรื่องที่ผมเคยเขียนเล่นๆทิ้งไว้จากความรู้สึกเมื่อหลายปี  โดยไม่ได้คิดว่ามันจะมีอยู่จริง   น่าจะราวๆ พศ.2538  สมัยที่คอมฯพิวเตอร์ มีแต่ภาษาเบสิคกับ word ของจุฬา ไมมี เครือข่ายโซเชียล Fb , line ฯ เหมือนทุกวันนี้     ตอนนั้นมีความรู้สึกในใจลึกๆว่า ชินคือ อาคม หรือลัทธิมนต์ดำ หรือผีอะไรไม่รู้ชนิดหนึ่ง      ที่สามารถใช้บังคับควบคุมคนอื่นได้


เรื่องผีชิน: เรื่องผีที่แทบจะไม่มีชื่อให้ได้ยิน  แม้ว่าเมื่อก่อน แถวบ้านผมจะมีหมอผีอยู่ ๒ คน คือ   หมอถัดถัด กับ หมอปิ้ม ทั้ง ๒ หมอนั้นชอบกินเหล้าเหมือนกัน ผมได้เจอบ่อย  หมอปิ้มนั้นตาคมมากดูน่ากลัว

หมอถัดนั้นคือ นายถัด ยืนยง นามสกุลเดียวกัยผมเสียด้วย  ที่สวนของแกอยู่บ้านพังเค็ม  ใกล้ถึงทะเล สามารถปลูกผลหมากรากไม้ได้โดยไม่มีใครกล้าไปขโมย  เพราะจะดดนดี โดนผีตหัวบ้าง ขว้างบ้าง  แต่ไม่มีตัวให้เห็นแต่ตอนนั้นผมก็ยังเด็กมาก  จำความไม่ค่อยได้  ต่อมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลังจากทำงานไปแล้วหลายปี นึกได้ขึ้นมาเลยหาข้อมูลดู / หมอถัด หรือตาถัด ก่อนท่านจะเสียชีวิต แม่พาผมไปดูด้วย แต่ผมนั่งอยู่ใต้ถุนไม่กล้าขึ้นไปบนบ้าน  กลัว  ได้ยยินแกร้อง หลายเสียงงมาก ไม่รู้เสียงใคร ต่อเสียงใคร ผู้ใหญ่บอกว่า ผีที่แกจับมาเลี้ยงงไว้ออกจากร่าง  จริงเท็จไม่รู้ แต่ผมได้ยินจริง


(ต่อครับ )เคยค้นดูจากกูเกิ้ลตั้งนานหลายหนก็ไม่เจอเรื่องชิน     จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒ มีค. ๕๗ ได้คำตอบโดยบังเอิญจากพี่หลวงเบื้อนที่ทำงานอยู่ไปรษณีย์หลักสี่     แกเป็นคนพื้นเพมาจาก จ.ตรัง แกเล่าว่า แถวบ้านแกมีผีชิน เป็นผีของชาวมุสลิม พวกลิเกป่า   ที่เห็นๆมี ๓ แบบ คือชินหิน ชินดอกไม้ ชินเบี้ยวา   เป็นวิญญานพวกหนึ่งที่เลี้ยงไว้เพื่อให้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามลักษณะของชินแต่ละแบบ     ผมเลยมาลองเปิด กูเกิ้ลดูใหม่จึงได้เจอจากเวปไซด์หนึ่งเล่าเรื่องผีชินเอาไว้ดังเรื่องข้างล่าง


เจอเรื่องผีชินจนได้ครับ  http://board.postjung.com/603804.html
ผีชิน หรือผีญิณ(ชัยตอน ) มันคือผีในศาสนาอิสลามซึ่งในความเป็นจริงนั้นในฐานความเชื่อของชาว


มุสลิม นั้นเชื่อกันว่า ญิณ ไม่ใช่ผีที่มีรูปอย่างของไทย ที่เที่ยวออกแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ชาวบ้าน แต่ญิน คือสิ่งชั่วร้าย ที่คอยล่อลวงให้คนทำบาป เช่นดื่มสุรา ไม่ละหมาด ขโมยของเป็นต้น แต่นั้นคือหลักของศาสนา เมื่อความความเชื่อเรื่องญิณของศาสนาอิสลามเข้ามาผสมปนเปกับความเชื่อแบบดั่งเดิมของคนไทย และผีในท้องถิ่นปักษ์ใต้แล้ว ทำให้ผีญินนั้นกลายเป็นสิ่งที่มีรูปร่างขึ้นมาได้ในบัดดล ซึ่งสิ่งนี้ให้มองในมุมของความผสมผสานทางวัฒนธรรม นะครับ

(ตัวอย่างศาลผีชิน เมื่อสร้างแล้ว เซ่นไหว้แล้วใน 1 ปี ก็จะไม่มีการไป เซ่นสรวงอีกจนกว่าจะครบกำหนดที่สัญญากันไว้ )

ผีญิน หรือผีชิน นั้นเป็นคำเรียกผีกลุ่มนี้ที่มีบ่อเกิดจากความเชื่ออิสลาม แต่มาโด่งดังในกลุ่มคนพุทธในภาคใต้ รูปลักษณ์ของผีชินนั้นจะเป็นดวงไฟสีเหลือง บางดวงก็สีเขียว โดยมีขนาดทั้งแต่จานข้าวถึงกระด้งเลยทีเดียว ญาติเล่าให้ฟังว่า ในตอนกลางคืนผีชินจะลอยละล่องไปในอากาศ เลยอย่างอ่อยอิ้ง เชื่องช้า ที่ที่มันลอยไปก็มักจะเป็นที่เฮี้ยนๆ อาถรรพ์ๆ น่ากลัวๆ

ผีชินนั้น มีหัวหน้าชื่อ โต๊ะอะดัมญินมูหมี หรือโต๊ะดำ ฝ่ายหญิงจะชื่อ โต๊ะอะหวา ในบางพื้นที่ก็ยังบอกว่า ผีชินยังมีชื่อโต๊ะแดง โต๊ะขาว แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องที่ หน้าที่ของผีชินคือรักษาที่ทางต่างๆ ซึ่งนัยหนึ่งก็คือ เขาเป็นกลุ่มวิญญาณที่ครอบครองพื้นที่มาก่อนมนุษย์ แต่ด้วยทำผิดพันธะสัญญากับพระเจ้า ชินเลยถูกลงโทษและไม่ได้รับการเหลียวแลจากพระเจ้า (เรื่องเล่าจากมุมมองคนพุทธ)



ผีชิน มีหลายประเภท... เช่น

ชินดิน หมายถึงผีชินที่อาศัยอยุ่บนพื้นดิน ซึ่งอยู่ร่วมกับคนทั่วไป บ่อยครั้งที่คนไปยกที่ยกบ้านทับที่พวกนี้เข้าและเกิดอาเพท ต้องหาหมอไสยศาสตร์มาทำพิธีกันวุ่นวาย ซึ่งส่วนใหญ่จะจบที่การตั้งศาลเพียงตาให้ชินอยู่เป็นที่เป็นทาง

ชินน้ำ คือกลุ่มผีชินที่อยู่ในน้ำ ในทะเล ชายฝั่ง ใครละเมิดพวกนี้เข้าถึงตายได้เลยทีเดียว

ชินน้ำค้าง ชินพวกนี้จะอยู่ตามต้นไม้ใบหญ้า คนจะนิยมเลี้ยงผีพวกนี้เพื่อทำให้เสียงไพเราะ ซึ่งส่วนใหญ่พวกศิลปินในปักษ์ใต้มักเลี้ยงกัน



ชินดอกไม้ พวกนี้จะนิยมเลี้ยงเช่นกัน เพราะจะทำให้สวยและโดดเด่นเป็นที่รักของคนทั่วไป และมีการทำเสน่ห์โดยใช้ชิน ไปเรียกคนนั้นคนนี้ให้มารักตน ว่ากันว่าการทำเสน่ห์แบบนี้ ร้ายแรงและแก้ยากมากๆ

นอกจากนั้น ยังมีชินอีกหลายกลุ่มนัก ยากที่จะกล่าวหมดในที่นี้

การเลี้ยงชิน

ส่วนใหญ่จะมีการเรียกและเลี้ยงผีชินกันอย่างแพร่หลายในสังคมชนบทของภาคใต้ บ้างก็เพื่อให้รักษาของ รักษาบ้านเพราะในสมัยก่อนโจรชุก บ้างก็เอามาทำมาหากิน กล่าวคือ คนที่เลี้ยงจะให้ผีชินไปสำแดงฤทธิ์เกิดอาเพทกับผู้คน และมีเพียงตนเท่านั้นที่รักษาได้ เพราะเป็นเจ้าของผี ซึ่งอันนี้คือการหากินที่บาปยิ่งนัก ญาติเล่าให้ฟังว่ามียายแก่ในหมู่บ้านคนหนึ่งแกเลี้ยงชินดอกไม้ไว้ ทำให้แกงามกว่าคนรุ่นเดียวกันมาก คือแม้จะแก่ก็งามแบบคนแก่ แต่ตอนแกใกล้ตาย แกทรมานมาก คือไม่ยอมตายเสียที จนกว่าจะหาคนมารับของไปจากตน คือถ้าคนอยู่มากๆ แกจะออดแอดๆ ไม่มีเรี่ยวแรง แต่เมื่อลับตาคนแกจะลุกขึ้นรื้อของกิน ปีนหลังคา เรื่องนี้ญาติๆ ยายคนนั้นเขาแอบดู  จนนานเข้าทำให้ยายนั้นไม่ได้พักผ่อนในกลางคืนเพราะแกจะนั่งคุย หัวเราะร่าคนเดียว ชาวบ้านบอกว่ายายไม่ตายเพระาผีชินที่แกเลี้ยงเข้าสิงอยู่ในร่าง  จนลูกสาวแกสงสารยายมาก เลยขอรับผีชินนั้มาเลี้ยงต่อ โดยการสืบทอดกันในซอกประตู มีการเลี้ยงเซ่นไหว้ผี แล้วก็มีวิธีสืบทอดที่เป็นความลับ จากนั้นไม่กี่วันยายคนนั้นก็จากโลกนี้ไป

เคยมีคนเห็นผีชิน
ญาติเล่าให้ฟังว่า ในท้องที่ที่อยู่นั้น ตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงตอนนี้ ยังคงมีคนเห็นผีชิน อยุ่เรื่อยมา โดยส่วนใหญ่ผีชินมักจะปรากฎในคืนที่ฟ้าเปิด มันจะลอยล่องไปจากที่หนึ่งไปสุ่อีกที่หนึ่ง มีลักษณะเป็นดวงไปขนาดอย่างที่บอกไป  ถ้าเป็นดวงสีเขียวนั้นจะเป็นพวกหัวหน้ามัน แต่ถ้าดวงเหลืองๆนวล จะเป็นพวงลูกน้องลูกสมุน


 จากเรื่องเล่าทั้งหมด นั้นกล่าวตรงกันว่า ผีชินมีลักษณะเป้นดวงไปที่สีนวลๆ ไม่มีแลบลิ้นปลิ้นตา อย่างผีอื่นๆ ของไทย  การปรากฎตัวของผีชินแต่ละครั้งอาจสัมพันธ์กับเรื่องร้ายๆของคนในหมู่บ้านบ้างเช่น มีคนตาย มี คนป่วยหนักและถูกผีชินกระทำ แต่ทั้งนี้ ญาติผมก็ไม่สรุปว่าจะเคราะห์ร้ายกันทุกครั้งไปที่เห็นผีชิน

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเด็กที่ขโมยปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อของโรงเรียนแถวบ้านญาติ ว่า ตอนนั้นที่โรงเรียนเลี้ยงปลานิลไว้มาก แต่เกิดปัญหาฝนแล้ง บ่อปลาน้ำจึงแห้งลง และเนื่องด้วยเด็กคนนี้ครอบครัวค่อนข้างยากจน การขโมยปลาจากโรงเรียนจึงเป็นหนึ่งทางออกที่จะยื้อปากท้องตนเองและครอบครัวให้รอดไปได้อีกหลายวัน เย็นวันนั้นหลังเลิกเรียนเด็กคนนี้จึงไม่กลับบ้านรอจนตะวันโผล้เผล่ แล้วเขาก้เริ่มลงมือจับปลา เด้กคนนั้นจับปลาไปได้สักพัก น้ำตรงกลางบ่อปลา ดัง ซ่าๆ  น้ำตีแตกกระจาย แล้ว ดวงไฟขนาดเท่ากระด้งก็ลอยขึ้น เรืองแสงสีเหลืองนวลตา และมุ่งมาหาเขา เด็กนั้นวิ่งร้องจ้า ไปทางบ้านชาวบ้าน และความลับเรื่องขโมยปลาของโรงเรียนโดยเด็กคนนั้นก็ถูกเปิดเเผยออก พร้อมๆกับไข้หัวโกร๋นของเด็กเอง

ความเชื่อเรื่องผีชินนั้นทำให้คนในหมู่บ้านเกิดความยำเกรงและเคารพในธรรมชาติ ไม่มีการรุกรานพื้นที่อย่างไร้เหตุ ความเชื่อนนี้ ชี้ให้เห็นว่า คนกับผีก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้ โดยคนจะเลี้ยงผี ปีละครั้ง ผีก็เฝ้าทรัพย์ในที่ดินให้คน ดูแลให้พืชผลงอกงาม ตามความเชื่อ นี่คือเสน่ห์ของความเชื่อเรื่องผีในปักษ์ใต้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชินแบบดวงไฟเหมือนเรื่องผีชินข้างบนนี้  แถวบ้านผมที่บ้านพังทองหลาง ต.วัดสน อ.ระโนด จ.สงขลาก็มีคนเห็นบ่อย แม่เฒ่าผมก็เห็นหลายครั้ง เป็นดวงไฟดวงใหญ่ๆ ลอยช้าๆ ชอบลอยอยู่ทางทิศตะวันออกพังทองหลาง แถวๆสวนลุงจำรัส ข้างบ้านลุงเปี่ยมป้าเห้ง ดวงไฟแบบนี้พี่ชายผมว่าบางทีก็เป็นเหล็กไหลมาหากินน้ำผึ้งจากรังผึ้ง   แต่หากมีสองดวงใหญ่กกับเล็ก ลอยสูงๆ อย่างเร็วนั้นจะเป็น หลวงปู่ทวด กับสามเณร ( ดูเรื่องตำนานหลวงปู่ทวด )

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ชิน” ในความเชื่อของชาวไทยถิ่นใต้ โดย : คนสทิ้งหม้อ

“ชิน” (shin) ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 364

กล่าวไว้ว่า หมายถึง 1.โลหะอย่างทองแดง 2.เคยมาแล้วบ่อยๆ 3.บุอย่างทองแดง 4.ผู้ชนะ

5.ชื่อศาสนาหนึ่งในอินเดีย

แต่ “ชิน” ที่ผู้เขียนจะขอกล่าวอ้างถึงนี้เป็นรูปแบบหรือลักษณะทางความเชื่อในแบบฉบับของชาวไทยถิ่นใต้ กล่าวคือ มีความเชื่อกันว่าในสมัยโบราณเนิ่นนานมาแล้ว มีดวงไฟประหลาดสีขาวขุ่นมักล่องลอยอยู่ในบริเวณป่า หรือในบริเวณสถานที่รกร้างผู้คน บ้างก็เห็นดวงไฟดังกล่าวล่องลอยอยู่รวมกันบนต้นไม้ใหญ่เป็นลักษณะของกลุ่มดวงไฟกว่า 100 ดวง คนโบราณท่านว่าดวงไฟที่เห็นดังกล่าวนี้เรียกว่า “ชิน” หมายถึง ดวงวิญญาณชั้นต่ำที่ประกอบแต่กรรมในภพที่แล้ว พอตายหรือละสังขารไปก็มาเกิดเป็นชิน ชินจำต้องล่องลอยวนเวียนอยู่อย่างนั้นไปผุดไปเกิดไม่ได้จนกว่าจะชดใช้ผลกรรมที่ก่อมาหมดสิ้นไป มีเรื่องเล่าลือกันมาในหมู่คนที่เรียนอาคมหรือร่ำเรียนทางไสยศาสตร์ว่าหมอทางไสยศาสตร์ส่วนใหญ่มักนิยมมาลองวิชากันด้วยการจับชินลงหม้ออาคม คนเฒ่าคนแก่ในภาคใต้ที่ผู้เขียนเคยได้เข้าไปสนทนาด้วยหลายจังหวัดหลายคนล้วนยืนยันว่าเคยเห็นพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ที่หมอไสยศาสตร์หรือหมอผีทำพิธีเรียกชินลงหม้อมาแล้ว มีลักษณะเป็นแสงไฟสีขาวขุ่นพุ่งตกลงมาในหม้อโดยหลังจากนั้นหมอไสยศาสตร์จะนำหม้อดังกล่าวไปทำพิธีกรรมต่อยังสถานที่อื่นต่อไป คนที่เคยพบเคยเห็นชินล้วนบอกกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าห้ามชี้นิ้วไปที่ดวงไฟดังกล่าวเพราะเชื่อกันว่าชินจะตามมาและนำความโชคร้ายมาสู่ตนเองรวมถึงครอบครัวได้ หากพบหากเจอให้พยายามเดินเลี่ยงหรืออยู่ห่างๆได้เป็นดีที่สุด

เฉพาะตอนนี้
เขียน,เรียบเรียง : คุณาพร ไชยโรจน์  โดย : คนสทิ้งหม้อ
ติดต่อ : kkkkssss457@yahoo.com  

 ขอบคุณทุกข้อมูลทุกเรื่องราวเหล่านี้  จะได้เก็บบันทึกไว้ เพื่อให้เป็นตำนานต่อไป
                                                                           สวัสดีครับ... มหาปลี   ข้างเปลว
                                                                                                    ๕ มีค. ๕๗

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก