เรื่องจาก นสพ .astv ผู้จัดการ
(11 สค.255717:19) http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000091389
“หมอเทพพนม” แจง UFO ห่วงประเทศไทย ชี้ผลวิจัยฮาร์วาร์ด “ผี-นรก-สวรรค์” มีจริง!
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน
 |
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน
|
แต่ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ศ.ดร.นพ.เทพพนม ก็ยังยืนยันว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงและก็ยังมาปรากฏกายให้เห็นอยู่จนทุกวันนี้
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นแพทย์ไทยที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ ที่หันมาศึกษาค้นคว้าเรื่องทางจิต ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย เป็นที่ปรึกษาโรงพยาบาลเอกชนและสถาบันการศึกษาหลายแห่ง เล่าให้ทีม special scoop ฟังถึงสถานการณ์ในอดีตและที่กำลังเกิดขึ้น รวมไปถึงกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตจากการที่มนุษย์ต่างดาวได้สื่อสารมาถึง เพื่อต้องการบอกให้คนไทยได้รับรู้และตระหนักถึงภัยร้ายที่จะเกิดขึ้น
โดยสิ่งแรกที่ต้องการบอกให้เห็นที่มาของความวุ่นวายที่เกิดในประเทศไทยนั้นมีต้นเหตุมาจาก “อาถรรพ์เพชรซาอุ” ซึ่งเป็นเครื่องเพชรของราชวงศ์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่มนุษย์ต่างดาวบอกมาตลอดว่าตราบใดที่ประเทศไทยไม่คืนเพชรซาอุฯ กลับไปยังเจ้าของที่แท้จริง เหตุการณ์ภาคใต้จะไม่มีวันสงบ จะมีเหตุการณ์รุนแรง คาร์บอมบ์ ตลอดไป
“มนุษย์ต่างดาวต้องการเตือนเราให้คืนเพชรซาอุฯ ไป ใครครอบครองไว้ก็จะมีอันเป็นไป บ้านเมืองจะวิบัติ เพราะเป็นเพชรที่ต้องคำสาป”
ศ.ดร.นพ.เทพพนม บอกว่าคำเตือนของมนุษย์ต่างดาวสอดคล้องกับคำบอกเล่าของเพื่อนที่เป็นเจ้าชายซึ่งเป็นหลานของกษัตริย์ประเทศซาอุฯ ว่าเพชรนี้มีมูลค่าสูงมาก และอยู่ในราชวงศ์มาเป็นพันปี เป็นเพชรสีน้ำเงินที่มีการสาปแช่งไว้ถ้าใครขโมยไปครอบครองจะมีปัญหา
กระทั่งทุกวันนี้เพชรดังกล่าวก็ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ประเทศซาอุฯ จ้างซีไอเอสืบหาและยืนยันว่าเพชรชุดนี้ยังอยู่ในประเทศไทยแน่นอน รวมทั้งยังไม่ได้ถูกตัดเปลี่ยนรูปร่าง เพราะทางซาอุฯ มีการยิงนัมเบอร์ไว้ด้วยเลเซอร์ และหากจะแก้ไขให้ความรุนแรงต่างๆ ยุติลงได้ต้องเอาไปคืนเจ้าของ จะส่งผลให้สถานการณ์ในบ้านเมืองดีขึ้นตามลำดับ
“เพชรชุดนี้จะเต็มไปด้วยแรงสาปแช่งซึ่งมีการทำพิธีกรรมทุกๆ อาทิตย์”
โดยมนุษย์ต่างดาวบอกอีกว่าประเทศไทยจะต้องดำเนินการใน 3 เรื่องจึงจะทำให้บ้านเมืองสงบได้ก็คือ 1. ต้องนำเพชรซาอุฯ ออกไปจากประเทศไทย 2. ส่งคนที่มีความยุติธรรมไปปกครองภาคใต้ 3. ส่งคนที่มีความยุติธรรมไปเจรจากับตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์รุนแรงในภาคใต้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี และบางครั้งแทบจะเกิดเป็นรายวัน ซึ่งแม้กระทั่งมีการยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้า คสช.แล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์ความรุนแรงก็ยังเกิดขึ้นเช่นเดิมโดยเฉพาะเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบริเวณย่านการค้าและชุมชนอยู่หนาแน่น แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายราย รวมถึงโรงแรม บ้านเรือน ร้านค้าบริเวณดังกล่าวเกิดไฟลุกไหม้ และได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ก่อนหน้าที่ คสช จะทำการรัฐประหาร มนุษย์ต่างดาวได้มาปรากฏให้เห็นเป็นภาพก้อนเมฆที่มีลักษณะเป็นคนตายหัวแขนขาขาด มันเกี่ยวทั้งภาคใต้และความขัดแย้งในบ้านเรา เขามาเตือนให้ระวังการแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน จะเอาชนะแก่งแย่งชิงดีกันของคนไทย ต่างคนต่างเคียดแค้นกันหยุดไม่ได้
“มนุษย์ต่างดาวบอกจะเกิดระเบิด และให้เตือนผู้นำของประเทศต้องระมัดระวังในปีนี้จนถึงสิ้นปีหน้า อาจมีความรุนแรงเกิดขึ้นกับผู้นำได้ แต่ไม่ได้บอกว่าผู้นำคือใคร ต้องระวังกันเอาเอง”
เตือนให้เตรียมรับมือภัยพิบัติ
นอกจากเรื่องเพชรซาอุฯ และความไม่สงบที่เกิดขึ้นแล้ว ศ.ดร.นพ.เทพพนม บอกอีกว่า มนุษย์ต่างดาวยังเตือนภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยภาพที่ปรากฏให้เห็นจะเป็นพื้นที่ กทม.จมน้ำ ส่วนล่างของประเทศไทยจะหายไป รวมไปถึงปรากฏการณ์ลมหมุน แผ่นดินไหว ที่ต้องระวัง โดยบอกให้ระวังน้ำที่มาจาก 2 แห่ง คือ น้ำจากฟ้า คือ น้ำฝน และน้ำทะเล รวมไปถึงน้ำทะเลที่มาจากการละลายน้ำแข็งขั้วโลกกลายเป็นน้ำปริมาณมหาศาล และหากน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมามากจะทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯได้อีก
“ประเทศสิงคโปร์กลัวเรื่องนี้มาก มีการสร้างเขื่อนเป็นกำแพงป้องกันรอบเกาะสูงถึง 10 เมตร แต่ประเทศญี่ปุ่นบอกว่าแค่นี้ไม่พอ ความสูงต้อง 30 เมตรถึงจะพอ ซึ่งเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียเองก็มีการสร้างกำแพงกันคลื่นสูงประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ของเราตอนยุคผู้ว่าฯ พิจิตต เคยออกไปดูเขตบางขุนเทียนกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฮอลแลนด์ บอกว่า ควรจะสร้างกำแพงกันคลื่นยาว 2 กิโลเมตร”
สำหรับเรื่องภัยพิบัติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของมหันตภัยน้ำท่วมก็ปรากฏให้เห็น อย่างกรณีวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับทุกภาคส่วน โดย ศ.ดร.นพ.เทพพนม บอกว่า ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประธานกรรมการมูลนิธิภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดยังแนะนำว่า ควรจะสร้างเขื่อนปิดตรงหน้าอ่าวกรุงเทพฯ เพราะแต่ละปีน้ำฝนไหลลงทะเลจำนวนมาก รวมกับน้ำทะเลที่หนุนขึ้นมาอีก และถ้าเราไปกั้นเป็นเขื่อนใหญ่จะป้องกันได้หากว่ามีพายุใหญ่เกิดขึ้นในทะเล แต่ต้องใช้เงินทุนมหาศาล และต้องสร้างเขื่อนยาว 100 กิโลเมตร
“หมอเทพพนม” แจง UFO ห่วงประเทศไทย ชี้ผลวิจัยฮาร์วาร์ด “ผี-นรก-สวรรค์” มีจริง!
เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554
พายุหมุนเปลี่ยนทิศ-แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ขณะเดียวกันมนุษย์ต่างดาวยังบอกด้วยว่าให้ระวังจะเกิด “พายุหมุน” ขึ้นในประเทศไทย เพราะภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นได้อีก มีทั้งน้ำท่วม ซึ่งทางภาคเหนือถ้ามีน้ำฝนมากจะส่งผลทำให้น้ำท่วมได้ เพราะจะไหลลงมารวมกันอย่างที่เคยเกิดขึ้น ข้างบนก็มีมวลน้ำไหลลงมามหาศาล พื้นที่ข้างล่างก็จะเกิดน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมาอีกนั้น จะยิ่งแย่ไปใหญ่
แต่ที่น่ากลัวมากโดยเฉพาะช่วงปลายปี เมืองไทยก็อาจจะเจอพายุหมุน (พายุงวงช้าง) ที่นานๆ จะเกิดขึ้นครั้งหนึ่งและมีการเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งเดิมทิศทางจากประเทศฟิลิปปินส์ขึ้นไปจีน เวียดนาม และมาที่ประเทศไทย แต่ตอนนี้เปลี่ยนจากจุดเริ่มต้นที่ฟิลิปปินส์วิ่งข้ามมหาสมุทรมาแถวไทย สิงคโปร์ ได้ทันที
“หมอเทพพนม” แจง UFO ห่วงประเทศไทย ชี้ผลวิจัยฮาร์วาร์ด “ผี-นรก-สวรรค์” มีจริง!
พายุหมุนหรือพายุงวงช้างที่ระยองเมื่อ 5 เมษายน 2557
นอกจากนี้มนุษย์ต่างดาวยังเตือนเรื่อง “แผ่นดินไหว” โดยสื่อให้เห็นจากรูปถ่ายที่เขาชะโงก เมื่อเร็วๆ นี้มีปรากฏการณ์เกิดขึ้นบนท้องฟ้าพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้วมีคล้ายดาวดวงใหญ่กลมๆ ลอยตามขึ้นมาด้วย เขาเตือนว่าให้ระวังจะมีอุกกาบาตมา จะเดือดร้อน หากเกิด Black Spot ขึ้นบ่อย โอกาสจะทำให้แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทยยิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะรอยเลื่อนที่ประเทศพม่าใกล้กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ คนที่ไปซื้อที่ดินที่เชียงใหม่เริ่มกลัว หลังจากเกิดครั้งใหญ่ที่เชียงราย ซึ่งที่ยังวิตกอีกคือ พวกที่อาศัยอยู่คอนโดสูงๆ หรือบ้านสองชั้น มีตึกสูงสร้างอยู่ข้างๆ ถ้ามีแผ่นดินไหวรุนแรงจะทำให้ตึกสูงเกิดพังขึ้นมาได้ ก็เกรงว่าการช่วยเหลือจะไม่ทันการ
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เล่าให้ฟังด้วยว่า จากการที่ไปร่วมงานสัมมนากับ ดร.สมิทธ ธรรมสาโรช จึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง และที่เป็นห่วงมากคือ รอยแยกที่ประเทศพม่าห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 300 กิโลเมตร และขณะนี้ที่ดวงอาทิตย์ก็มีการระเบิด Black Spot จำนวนมาก ความรุนแรงขนาดเดียวกับระเบิดปรมาณู ซึ่งจะส่งคลื่นมาจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในโลกนี้ มีการพิสูจน์แล้ว
“เรายังกลัวว่า ก่อนสิ้นปีนี้ตั้งแต่เดือนกันยายน - ธันวาคม 2557 อาจจะมีแผ่นดินไหวใหญ่ในเอเชีย และประเทศไทย”
ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว 6 ริกเตอร์ เกิดขึ้นที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน และที่ประเทศไทยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่วัดได้ประมาณ 2-3 ริกเตอร์ แต่เมื่อต้นปีที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงรายประมาณ 6.3 ริกเตอร์ ขนาดบ้านของ ศ.ดร.นพ.เทพพนม ซึ่งสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ยังได้รับผลกระทบมีรอยร้าวหลายแห่งเกิดขึ้น ซึ่งเวลาเกิดจะมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
หากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นขนาด 6 ริกเตอร์นั้น สิ่งที่นักสิ่งแวดล้อมกลัวกันมากก็คือ หวั่นเกรงว่า เขื่อนศรีนครินทร์ ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี จะแตก เพราะสร้างบนรอยเลื่อนของโลก หากเกิดขึ้น ดร.สมิทธ คำนวณว่าภายใน 35 ชั่วโมงบ้านในพื้นที่ กทม.ที่มีความสูง 3 ชั้น น้ำจะท่วมมิดเลย ซึ่งพื้นที่ปลอดภัยที่สุดคือ ภาคอีสาน เพราะไม่มีรอยเลื่อน
“พื้นที่ปลอดภัยและใกล้กรุงเทพฯ ที่สุดหากเกิดภัยพิบัติจะต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 200 เมตร คือ ปากช่อง เขาใหญ่ ตอนนี้ราคาที่ดินขึ้นไปเป็นไร่ละล้านแล้ว หนีไปปากช่องได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมงทัน แต่ถ้ามีภัยพิบัติคิดว่า 6 ชั่วโมงคงไม่ถึง เพราะถนนจะเต็มไปด้วยรถเพื่อหนีไปปากช่อง”
และยังมีปรากฏการณ์ที่มนุษย์ต่างดาวเคยเตือนมาแล้วด้วยการยิงภาพให้เห็นบนท้องฟ้าเป็นรูปนกบิน ซึ่งตอนนั้นก็มีการระบาดของไข้หวัดนก จึงยังเตือนให้ระวังต่อไปเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดมาจากต่างประเทศให้มาก ไข้ซาร์ส ไข้หวัดนก ปัจจุบันที่กลัวกันมาก คือ อีโบล่า จากแอฟริกา ซึ่งหากระบาดเข้ามาในไทยยังไม่มียาป้องกันหรือรักษา ติดเชื้อได้หลายทาง คนไทยไปค้าขายในแอฟริกาเยอะ มีคนไทยที่ไปค้าขายเพชรพลอยที่นั่นป่วยหนักถูกกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลทหารเรือที่จันทบุรีแล้ว
“หมอเทพพนม” แจง UFO ห่วงประเทศไทย ชี้ผลวิจัยฮาร์วาร์ด “ผี-นรก-สวรรค์” มีจริง!
ความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่เชียงราย เดือนพฤษภาคม 2557
สงครามโลกครั้งที่ 3
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เล่าอีกว่ามนุษย์ต่างดาวมาปรากฏให้เห็นอีกและบอกว่า ให้ระวังสงครามเล็กจะกลายเป็นสงครามใหญ่ โดยเฉพาะสงครามตะวันออกกลาง ติดพันกันมากมาย และหากว่าประเทศมหาอำนาจเข้ามาหนุนหลัง อย่างที่ยิวรบกับอาหรับ อเมริกันหนุนหลังยิว หากว่าจีนหนุนหลังอาหรับด้วยแล้ว จะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ง่าย
หากจะลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด ที่มนุษย์ต่างดาวพยายามจะสื่อสารและบอกกล่าวก็คือจากสถานการณ์ภัยพิบัติผ่านไป ทุกอย่างจะสงบระยะหนึ่ง และสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้น มีผู้คนล้มตายจากเหตุการณ์นี้จำนวนมาก และจะมีเหตุการณ์จากอุกกาบาตจะมาชนโลก ซึ่งมนุษย์ต่างดาวสื่อให้เห็นเป็นรูปพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว มีดาวใหญ่อีกดวงขึ้นตามมาที่เขาชะโงก จังหวัดนครนายก เมื่อปีที่ผ่านมา
“มนุษย์ต่างดาวบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นคู่กัน และอีกดวงใหญ่กว่านี้เขาว่าแย่แล้ว ซึ่งเป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่า ต่อไปในอนาคตจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ไม่ชัดเจน เราคงตายไปแล้ว ถ้าดาวอุกกาบาตมาชนโลกคนจะตายหมดไปจากโลก เหมือนในยุคสิ้นไดโนเสาร์ จากยุคพระโคตะมะ ก้าวเข้าสู่ยุคต่อไปเป็นยุคพระศรีอาริย์”
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องบ้านเมือง
สำหรับวิธีการช่วยให้ กทม.รอดจากการจมน้ำนั้น ในช่วงต้นปี 2557 ที่ผ่านมา กลุ่มนักธุรกิจร่วมกันสร้างพระนาคปรกห้ามสมุทรขึ้นมาเพื่อถวายในหลวง และยังได้โปรดนำพระสมุทรไปถวายที่วัดหลายๆ แห่ง เพื่อแก้น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งในอดีตปี 2547 สึนามิเกิดขึ้นนอกอ่าวไทย ในทะเลอันดามัน แต่หากว่าเหตุการณ์นี้เกิดในอ่าวไทย จะเลวร้ายมาก เพราะพื้นที่นี้ไม่มีภูเขากั้นขวางไว้ คลื่นน้ำทะเลจะพัดเข้ามาตั้งแต่จังหวัดตราด กาญจนบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์
ส่วนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง โดยเฉพาะคนที่ไม่หวังดีหรือคิดร้ายต่อบ้านเมืองนั้น ศ.ดร.นพ.เทพพนม บอกว่ามนุษย์ต่างดาวได้บอกวิธีแก้เคล็ดกับคนที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองว่า การสร้างพระขรรค์เหล็กน้ำพี้สีขาวองค์ปัจจุบันที่ตัวเองและกลุ่มประชาชนชาวไทยร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีที่มาจากในปี 2540 มนุษย์ต่างดาวบอกว่ามีคนเก่งฉลาดแต่ขาดคุณธรรมมาปกครองบ้านเมือง ทางแก้คือ ประชาชนต้องสร้างพระขรรค์ถวายในหลวงภายในสิ้นปี 2544 ซึ่งในเวลานั้นยังเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ได้
“ตอนแรกๆ ก็ไม่กล้า แต่ด้วยความที่ผมเป็นลูกศิษย์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร จึงไปทูลปรึกษาท่านว่าจะเหมาะสมหรือไม่ เพราะโดยปกติพระขรรค์นี้ในหลวงจะเป็นผู้สร้างขึ้นมา ไม่ใช่ประชาชนสร้างถวายท่าน พระสังฆราชทำสมาธิเห็นว่าต้องสร้าง โดยจะนำความกราบบังคมทูลในหลวงให้ หลังจากนั้นผมมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ท่านทรงโปรดให้สร้างเหมือนพระแสงขรรค์ชัยศรี ที่เป็นของพระที่นั่งจักรีเลย แต่ต่างกันตรงที่ว่าให้สร้างโดยเหล็กน้ำพี้ เพราะพระแสงขรรค์ชัยศรีสร้างจากเหล็กเขมร”
หลังจากสร้างเสร็จแล้ว เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2544 นำไปถวายในหลวงที่พระราชวังไกลกังวล ที่หัวหิน แต่ปัจจุบันในหลวงรับสั่งให้นำไปไว้ที่พระที่นั่งวิมานเมฆ
ศ.ดร.นพ.เทพพนม กล่าวว่า เมื่อสร้างพระขรรค์ถวายในหลวงไม่ถึงเดือน มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นที่บ้านของประธานชมรมกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ร่วมกันสร้างพระขรรค์ คือ มีเสียงโครมตกลงบนหลังคารถเบนซ์ เดินไปดูมีพระยาว 1 คืบตกลงมา ท่านประธานจึงให้คนนำพระมาให้ผม บอกว่าเป็นพระปราบมารคู่กับพระขรรค์ ใช้สู้กับคนที่คิดไม่ซื่อ ไม่ดีกับแผ่นดิน ซึ่งมีเรื่องแปลกมากที่พระที่ได้มา แรกๆองค์ดำเป็นสำริด ต่อมาองค์พระกลายเป็นสีทองทั้งองค์ ซึ่งได้เก็บไว้จนทุกวันนี้
มิติลี้ลับที่ใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์
อย่างไรก็ดี ทีม special scoop ไขข้อสงสัยว่า ศ.ดร.นพ.เทพพนม มีอะไรต่างจากคนทั่วไป มนุษย์ต่างดาวจึงเลือกที่จะมาสื่อสารหรือปรากฏให้เห็นและบอกเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า
“มนุษย์ต่างดาวบอกในอดีตชาตินั้นผมเป็นเพื่อนกับมนุษย์ต่างดาวและมาจากแหล่งเดียวกัน” ซึ่งส่วนใหญ่คนไม่เชื่อว่าตัวเองติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ บางคนมองว่าเพี้ยน แต่มีส่วนหนึ่งเชื่อ เพราะมองว่าอาจารย์เป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะบอก แต่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเองก็มีการศึกษาเรื่องลี้ลับเช่นกัน
“ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ พยายามค้นหาความจริง และฮาร์วาร์ดเองมีการศึกษาเยอะ การวิจัยของที่นี่ถือว่า “เก่ง” ที่สุดในโลก นอกจากวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และยังมีการวิจัยธรรมชาติ สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ คือ วิจัยเรื่อง “ผี” “มนุษย์ต่างดาว”เรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ หรือเรื่องที่ยิงไม่เข้า แทง ฟันไม่เข้า”
โดยที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีการวิจัยเรื่องผีเยอะมาก ตามคำขวัญ “ความจริงเท่านั้น ที่ทำให้ท่านเป็นอิสระต่อความโง่เขลาทั้งปวง” ซึ่งวิจัยได้ทุกๆ เรื่อง และการวิจัยใช้เหตุผลอย่างเดียวไม่ได้ ตัวอย่างการพิสูจน์ของเพื่อนนักเรียนแพทย์ที่ฮาร์วาร์ด ต้องการพิสูจน์เรื่องผีว่าตายแล้วไปไหน โดยแอบทดลองไม่บอกอาจารย์ ฉีดยาเข้าเส้นให้หัวใจหยุดเต้น ไม่ให้เกิน 5 นาทีเดี๋ยวสมองถูกทำลาย หลังจากนั้น 4 นาทียิงกระแสไฟฟ้าเข้าไปในหัวใจให้หัวใจเต้นใหม่ แล้วรอวันสองวัน พอเริ่มดีขึ้นก็จะนำบุคคลกลุ่มเดิมมาทำการสัมภาษณ์ว่าขณะนั้นที่ตายไป ไปไหนมาบ้าง ทำอยู่ประมาณ 100 คน หลังศาสตราจารย์ใหญ่รู้เรื่องเลยเรียกไปตักเตือนว่า ใครทำแบบนี้อีกโดนไล่ออก
การวิจัยใน 100 คนเมื่อหัวใจหยุดเต้นทั้งผู้หญิงและผู้ชายนั้น จะพบคำตอบว่าพวกเขาจะถูกดูดหรือจับตัวไปในที่แห่งหนึ่ง และเจอญาติเพื่อนสนิทที่ตายไปแล้วมาคอยรับอยู่ และพาไปที่มีคณะกรรมการตัดสินความดี-ความชั่ว ไปนรกหรือสวรรค์ มีเช็กแล้วพบว่ายังไม่ตายแล้วมาได้ยังไง ถูกส่งกลับคืนมา เขาบอกเวลา มนุษย์ทุกคนที่ตายไปต้องไปผ่านกระบวนการนี้ ซึ่งพุทธศาสนาหินยานไม่เรียกว่าเป็น “ภพภูมิ” แต่มหายานเรียกว่าเป็นภพภูมิที่ 32 เพราะมีการบอกเล่าว่า มนุษย์ยังมีการเวียนว่ายตายเกิด เวลาตายไปนรกหรือสวรรค์ ต้องไปเกิดใหม่กลายเป็นสัตว์หรือคน และเวลาเกิดใหม่ ต้องกลับมาที่ภพภูมิเก่า เช่นเดียวกับบทสรุปของนักเรียนแพทย์ที่ฮาร์วาร์ดทำการศึกษาเหมือนหนังฮอลลีวูดเรื่องแฟลชไลน์ พูดว่า “มนุษย์ตายไปไม่ได้สูญไป แต่ไปมีชีวิตอยู่ในอีกมิติหนึ่ง”
ดังนั้นการติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ และความลี้ลับต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากในอีกมิตินั้น ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจ ซึ่ง “ศ.ดร.นพ.เทพพนม” เลือกใช้พลังพิเศษที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะในบทบาท “นายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยมหิดล” ที่มีการประชุมทุกเดือน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสมาธิทางจิต มีกิจกรรมเรื่องโครงการเข้าไปสอนทำสมาธิในกรมราชทัณฑ์ ส่งเสริมให้ผู้ต้องขังทำสมาธิให้จิตสงบ สอนการให้พลังมือ หลักสูตร 3 วันก่อนการพ้นโทษ สำหรับนักโทษที่เป็นอาชญากรรุนแรงต่างๆ เพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำ ให้จิตสงบ ปลดปล่อยเป็นพลังออกมา
“จำนวนผู้รับการสอนนับหมื่นคน ซึ่งหลังจากที่เข้ารับการอบรม และติดตามผลพบไม่มีอัตราทำผิดซ้ำและกลับเข้ามารับโทษ” ศ.ดร.นพ.เทพพนมกล่าว
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน บอกเล่าเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่มาเตือนหรือมาบอกกล่าวทั้งหมดนั้นล้วนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ หากเราสามารถปฏิบัติได้และรู้จักป้องกันภัยพิบัติตามธรรมชาติไว้ก่อนที่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจนสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ รวมไปถึงผลการพิสูจน์ด้านวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่ามนุษย์ทุกคนตายแล้วไปไหน ก็ขึ้นอยู่กับกรรมดีและกรรมชั่วของตนเองทั้งสิ้น!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น