ปิยชีพ วัชโรบลเตือนภัย

ข้อความจากเฟสบุ๊คคุณปิยชีพ วัชโรบล   เมื่อกลางเดือนเมษายน 2558 ท่านผู้นี้ยังไงผมว่าส่วนหนึ่งแกก็มีความจริงใจ มีความห่วงใยต่อเพื่อนมนุษย์เสมอมาครับ    https://www.facebook.com/nui707?fref=ts



วันที่ 20 เมษายน 2558 พบปริมาณจุดดับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ เป็นลางบอกเหตุถึงแผ่นดินไหวภายใน 1-4 วันเป็นการคาดการณ์ของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ที่ท่านก็บอกให้เรา +1 -1 เสมอมา

จากที่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ได้สอน และชี้แนวทางในการค้นคว้า เอกสาร ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เว็บข้อมูลต่างๆ เพื่อค้นศึกษาหาเหตุปัจจัยในการเกิดภัยพิบัติจน้แ็นที่มากของแนวทางการศึกษาที่ผมถือว่าถูกต้อง ตรงความเป็นจริง เพราะอธิบายปรากฏการณ์ได้จริงๆ นำมาคาดการณ์ล่วงหน้าได้จริงๆ ดั่งที่เคยสำเร็จมาแล้วเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม เกิดที่ญีปุ่น เซนได และ ๑๑ เมษายนที่สุมาตรา

ปัจจัยหลักๆที่มีผลให้เกิดพิบัติภัยร้อยละ ๙๐ มาจากดวงอาทิตย์โดยตรง อีกร้อยละ ๑๐ มีผลโดดยตรงกับโลก และมีผลโดยตรงกับดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งกผลระทบถึงโลกอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ซุปเปอร์โนวา บิ๊กแปงค์ แบล็กโฮล นิบิรุส หรือ Planet X ล้วนมีผลปัจจัยให้เกิดภัยบนโลกทั้งสิ้น

ปัจจัยภายในระบสุริยะ ก่อให้เกิดฤดูกาล และภัยธรรมชาติแรงบ้าง เบาบ้างเป็นวัฏจักรรอบ ๑๐๐ ปี ๑,๐๐๐ ปี หรือ ๑๐,๐๐๐ ปี หรือ ๑๐๐,๐๐๐ ปี หรือ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ปี

แต่ในรอบวัฏจักรของปัจจัยภายในระบสุริยะนั้น ก็มีปัจจัยภายนอกระบบสุริยะแทรกเข้ามาด้วย เช่น รังสีคอสมิคจากปรากฏการณ์ฉุปเปอร์โนวา การเข้ามาของดาวหางของอุกาบาต การเข้ามาของนิบิรุส หรือ Planet X การที่ระบบสุริยะโคจรผ่านเมฆอวกาศในจักรวาล(เริ่มปี ค.ศ.2010) ล้วนมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอวกาศภายในระบบสุริยะเอง

การเปลี่ยนแปลงหลักๆนอกจากลมพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการสลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก ที่แม๊กม่าใต้ผืนดินที่เป็นตัวผลิตสนามแม่เหล็กโลกเคลื่อนย้ายตำแหน่งสลับกันไปมา ซึ่งในระหว่างการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นสภาวะการณ์ของโลกในปัจจะบันนี้

กระแสแม๊กม่าหลักย้ายจาก ใต้ไปเหนือ เหนือไปใต้ บางส่วนแยกไปตะวันออก บางส่วนแยกไปตะวันตก ทำให้สนามแม่เล็กโลกแปรปรวน อ่อนกำลัง ทำให้พลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเข้ามาในโลกได้ง่ายขึ้นไปอีก

และในช่วงมี่แม๊กม่าเคลื่อนที่ปั่นป่วนสลับไปมานี้ มีผลให้แรงโน้มถ่วงของโลกลดลง เมื่อแรงโน้มถ่วงของโลกลดลง แรงหนีจุดศูนย์กลางที่โลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วที่ ๑,๗๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็เพิ่มขึ้น

เมื่อแรงหนีจุดศูนย์กลางเพิ่มขึ้น แรงเหวี่ยงก็มากขึ้น ส่งผลให้เปลือกโลกชั้นนอกสุดหลุดขยายออกมาเปลือกโลกชั้นใน ก่อให้เกิดแผ่นดินปริแตกแยก

เมื่อแผ่นดินปริ แตก แยก หรือ บางลง สนามแม่เหล็กไฟฟ้าในอวกาศ ในบรรยากาศ ก็เกิดการเหนี่ยวนำกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในแม๊กม่าใต้เปลือกโลกได้

เมื่อเกิดแรงเหนี่ยวนำของไฟฟ้ากันและกัน ก็เกิดการสปาร์ค ช้อต ดูเข้าหากัน ปรากฏารณ์แผ่นดินไหวจึงเกิดขึ้น เกิดขึ้นมาในรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่มีช่องว่างให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าใต้โลกออกมาได้ง่ายอยู่แล้ว




ในขนาดที่แผ่นเปลือกโลกปริ แยกออกมาจากที่อธิบายข้างต้น แม๊กม่าที่อยู่ชั้นในก็เกิดแรงเหวี่ยงออกมาด้วย ทางออกที่ง่ายที่สุดของแม๊กม่าคือปากปล่องภูเขาไฟที่มีอยู่แล้ว ปรากฏการณืภูเขาไฟระเบิดไปทั่วโลกใกล้เคียงกัน เริ่มถี่มากขึ้น รุนแรงขึ้น และในที่สุดจะระเบิดพร้อมๆกันทุกลูกทั่วโลก เมื่อเปลือกโลกชั้นนอกหลุดออกมาจริง ๑-๕๐ กิโลเมตร หรือ มากกว่านั้น มวลแม๊กม่าก็จะออกมาจากทั้งปากปล่องภูเขาไปรูปกรวยเช่น ฟูจิยามา เซนต์เฮเลน วิซูเวียส การากาตั้ว หรือ ออกมาจากซุปเปอร์โวแคนโน เช่น เยลโลสโตน ดานัว โทบา หรือเซนได และออกมาจากการปริแยกของแผ่นเปลือกโลก ทั้งบนบกและใต้ทะเล ที่แผ่นเปลือกโลกแตกแยกออกจากกันคล้ายดินหน้าแล้งในทุ่งกุลาร้องไห้ แล้วแม๊กม่าไหลออกมา ที่เรียกรวมกันทั่วไปว่า Volcanic Activities หรือ ปฏิกิริยาภูเขาไฟ ที่พบในบ้านเรา ในอ่าวไทย ช่วงชุมพร นคร สงขลา ในอันดามันช่วง ภูเก็ต ระนอง สตูล ตรัง

มื่อเปลือกโลกมีการขยายตัวให้โลกใหญ่มากขึ้น น้ำทะเลก็น่าจะลดลงสิ แผ่นดินน่าจะงอกสูงขึ้นมามากสิแบบที่ญี่ปุ่นที่งอกมา ๓๐๐ เมตร เมื่อวันที่ ๒๕ หลังจากแผ่นดินไหวที่เนปาล ????

น้ำไม่ลดลง แต่น้ำจะท่วมสูงมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมๆกับแผ่นดินที่โลกขยายตัวกว้างขึ้นกว่าเดิม เส้นรอบโลกยาวขึ้นกว่าเดิมด้วย

ทำไมเป็นเช่นนั้น???

ที่น้ำจะสูงขึ้นซึ่งคาดการณ์ว่าระดับ น้ำจะสูงขึ้นถึง ๒๓๕ เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลงทั่วโลก เกิดด้วยเหตุปัจจัยหลักๆ อธิบายแบบบ้านๆ ดังนี้

ประการที่ ๑ การละลายของน้ำแข็งทั้งขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ ก่อนที่น้ำแข็งจะเกิดใหม่ในแนวขั้วโลกใหม่ ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ซึ่งสหประชาชาติ และ World Bank ก็ประกาศเตือนมานานแล้วว่า น้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นถาวร ๒ เมตร ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เมืองชายทะเลต่างๆจะจมน้ำถาวร ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานครของเราด้วย

แค่น้ำแข็งขั้วโลกละลายหมด น้ำทะเลมหาสมุทรก็เพิ่มระดับหน้าในโลกถึง ๘๐ - ๑๐๐ เมตรแล้ว

ประการที่ ๒ รังสีคอสมิคที่เข้ามามากมายในช่วงที่ผ่านมา ช่วงนี้ และช่วงหน้า นำน้ำมาสู่โลก แบบที่เกิดสมัยโนอาห์

นิวเครียสของรังสีคอสมิคคือไฮโดรเจน เมื่อไฮโดรเจนจากนอกโลกเข้ามาในโลกมากขึ้น มาปะทะกับอ๊อกซิเจนที่โดนแรงเหวี่ยงและปรากกฏการณ์ของโลกผลักออกอวกาศไปในชั้นบรรยากาศมากขึ้น ก็ก่อให้เกิดความชื้นในโลกมากขึ้น เมฆหนามากขึ้น ดั่งที่บอกมานานแล้วว่าน้ำท่วมทุกที่ที่ฝนตก เพราะปริมาณเมฆ ปริมาณความชื้นในบรรยากาศมากกว่าเดิม ตกปุ๊ปท่วมปั๊ป ซึ่งเกิดมาแล้วทั่วโลก และจะเกิดต่อไปอีก

เมื่ออวกาศส่งน้ำมายังโลกมากขึ้น น้ำก็ไหลลงทะเล มหาสมุทร และซึ่มลงใต้โลก ไปเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดินให้มากขึ้นไปอีกทำให้เกิด

ประการที่ ๓ น้ำใต้ดินทั้งของเดิมและของใหม่ที่อยู่ใต้ดินในแนวระนาบทั้งใต้แม๊กม่า และเหนือแม๊กม่า โดนแรงเหวี่ยงจากแรงหนีศูนย์กลาง แล้วเปลือกโลกแตกปริ เกิดโพรง เกิดช่องว่าระหว่างเปลือกโลกชั้นนอก ก็ทำให้น้ำในดินออกมาเพิ่มปริมาณน้ำบนดินเข้าไปอีกทอดหนึ่ง ทำให้ระดับน้ำในโลกสูงขึ้น และน่าจะสูงในสัดส่วนที่มากกว่าการขยายตัวสูงขึ้นของเปลือกโลกที่เป็นดิน ซึ่งทำให้นักวิทยาสาสตร์คาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นมาอีก ๒๓๕ เมตร นั่นเอง

นี่เฉพาะน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆแบบน้ำท่วมแี ๕๓-๕๔ ก็ ๒๓๕ เมตรแล้ว ซึ่งไปตรงกับพื้นที่สีแดงในแผนที่ ที่ให้ไปแล้วว่าที่ไหนเป็นเขตปลอดภัย ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ว่า บ้านเรือนของท่านนั้นสูงจากระดับน้ำทะเลเท่าไหร จาก กูเกิ้ลเอิร์ท หรือ สอบถามหน่วยงานท้องถิ่นในที่ ที่ท่านอยู่ เช่น อบต. ที่ดินอำเภอ เป็นต้น

ดังนั้น ข่อนแก่น อุดร อุบล นครพนม หรือ อีสานทั้งแถบจึงน่าจะอยู่ใต้น้ำหมดหลังเกิดโพลชิ้ป หรือ โลกสลับขั้สวนามแม่เหล็ก มีหนองบัวลำภูที่น่าจะเป็นชายทะเล กลับไปในยุคไดโนเสาร์ที่อีสานเป็นทะเลมาก่อน ไดโนเสาร์หากินแถบ ชุมแพ ข่อนแก่น กาฬสินธิ์

ดังนั้น ภาคกลางทั้งหมดขึ้นไปถึงเถิน ก็น่าจะอยู่ใต้น้ำ ชายทะเลจะไปอยู่ที่เกาะคา ลำปาง เกาะคาจะเป็นเกาะอีก ลำปางจะเป็นแหล่งพักผ่อนชายทะเลใหม่ แนวเขาสันปันน้ำ ไปทางทุ่งเสลี่มสุโขทัย วังชิ้น เด่นชัย บางส่วนของอุตรดิตถ์ นครไทย ทับเบิก น้ำหนาว ภูกระดึง ไป หฃวัดหลวงปูขาว อนาลโย น่าจะเป็นชายฝั่งทะเลหมด

ส่วนพื้นที่ ที่อยู่สูงจากแนวนี้ไปทางเหนือ ไม่ว่าที่ ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย หากอยู่ต่ำกว่าน้ำทะเลในปัจจุบันไม่ถึง ๒๓๕ เมตร น้ำก็จะซึ่มขึ้นมาเป็นหนอง เป็นบึงในอนาคต

ที่นี้มาถึงในเมื่อคาดการ์ว่าน้ำจะท่วมแค่ ๒๓๕ เมตร แล้วเขาใหญ่ วังน้ำเขียว เทือกเขาตระนาวศรี ป่าห้วยขาแข้ง ทำไมไม่ปลอดภัย ทำไมอยู่ไม่ได้ในเมื่อส่วนมากอยู่สูงเกิน ๒๓๕ เมตร ???

ที่ไม่ปลอดภัย อยู่ไม่ได้ เพราะในช่วงที่เกิดโพลชิ้ป ที่โลกหมุนรอบตัวเองช้าลง หรือ เร็วขึ้น หรือ แกว่างเอียงไปๆมาๆนั้น ตัวแผ่นดิน ย่อมเคลื่อนไหวไปตามๆกัน เราๆท่านอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะขนาดทุกวันนี้ เราเคลื่อนที่ไปพร้อมกับโลกด้วยความเร็ว ๑,๗๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลย

แต่น้ำ ไม่ใช้แผ่นเปลือกโลกที่เป็นของแข็ง น้ำเป็นของเหลว เปลี่ยนแปลงตามสภาวะ สถานะ และสภาพแวดล้อม

เมื่อโลกแกว่งเอียงไปมา มวลน้ำที่มีพลังานศักย์ก็จะ กระเพืืม เข้าหาเมืองชายฝั่ง ถาโถมขึ้นฝั่ง ซึ่งคาดการว่าจะเกิดคลื่นสูง ๔๐๐-๕๐๐ เมตร เข้าฝั่งทุกฝั่งทั่วโลก มากบ้าง น้อยบ้าง ตามความลึก ตามมวลของน้ำในบริเวณนั้นๆ

น้ำที่กระเพือมขึ้น แกว่งไปๆมาๆ กระฉอกไปๆมาๆนั้น จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ดังกล่าวข้างต้น ที่ซัดเข้าแผ่นดิน

เมื่อคลื่นมาปะทะเทือกเขา ภูเขา น้ำจะข้ามเทือกเขาตะนาวศรี ไปๆมาๆ น้ำจะข้ามเขาใหญ่ ไปๆมาๆ เมื่อน้ำกระแทกเขา น้ำก็กระเด็นกระดอนสูงขึ้นฟ้า แล้วตกลงมายังยอกเขานั้นๆอีก ซึ่งเหตุการณ์คลื่นยักษ์ที่ไม่ใช่สึนามิซัดฝั่งนั้น น่าจะกินเวลา ๖ เดือน ถึง ๒ ปี กว่าจะสงบนิ่ง เป็นคลื่นธรรมดาแบบปัจจุบัน

ดังนั้น เขาใหญ่ วังน้ำเขียว ตะนาวศรี จะอยู่อาศัยแบบเกาะ แบบแหลมได้ ก็เมื่อหลังเหตุการณ์โพลชิ้ปแล้วเท่านั้น จึงทำให้แนวที่เหนือน้ำทะเลไปไกลจากชายฝั่ง ๕๐๐ กิโลเมตร จึงเป็นที่ ที่ปลอดภัยที่สุด

ที่ ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ได้ได้หมายความว่าไม่มีภัยเลย มีแต่น้อยกว่าเพื่อนที่สีแดงที่เสี่ยงภัย

เมื่อมีโอกาสไปอยู่ในที่ ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เราจะรอดชีวิตหรือไม่ ??? รอด หรือ ไม่มีรอด ไม่มีใครให้หลักประกันได้ เพราะไม่มีใครชนะความตายได้ เช่น ท่านหนีขึ้นไปพ้นภัยแล้ว คิดมากช้อคตาย หรือ ดีใจที่รอดจากภัยพ้นช่วงเสี่ยงตายแล้ว ดีใจตายแบบคนถูกหวย ก็เป็นไปได้ใช่ไหมครับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตายไปได้

ผมยากจนมาก ผมจะมีโอกาสรอดไหม ? ไม่มีเงินไปหาที่อยู่ในส่วนที่อาจารย์ว่าปลอดภัยมากที่สุด ????

คนจน คนรวย มีโอกาสตายมากที่สุด มากพอๆกัน
คนที่จะรอดตายคือคนที่มีสติ สัมปชัญญะ คิด ไตร่ตรอง

หากท่านเป็นคนมีสติ สัมปัญชัญยะ นึกคิดไตร่ตรองได้ ท่านก็มีโอกาสรอดปลอดภัย ได้เห็นอภิมหาพิบัติภัย และไปตายในช่วงเวลาอันควรของชีวิตท่าน

เมื่อท่านมีสติ ผมเตือนอะไรไป ท่านก็เตรียมการ เตรียมตัวเท่านั้น เช่น เมื่อใกล้ๆถึงเวลาที่ภัยน่าจะมา ท่านก็เดินทางไปวัดต่างๆในภาคเหนือ ไปปฏิบัติธรรม วัดไหนก็ได้ที่ท่านศรัทธา แค่นี้ท่านก็มีโอกาสรอดแล้วใช่ไหมครับ ไม่ต้องใช้เงินซื้อที่ดิน ท่านก็มีที่อยู่ มีอาหารกินแล้ว เป็นต้น




ท่านถามว่า อภิมหาภัยพิบัติภัยนี้จะเกิดเมื่อไหร ???
นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเกิดใน ๘๐ ปี ที่เขาประกาศเมื่อ 2011 หรือในช่วงชีวิตเขา

เกิดอีก ๘๐ ปี ก็ดูนาน แต่พอว่าเกิดในช่วงชีวิตเขา แต่ละคน ๔๐ UP ก็ไม่น่าจะเกิดเกิน ๔๐ ปีจากนี้

ที่นี่้ ความแน่นอน คือความแม่ไน่นอน

นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งก็พบว่า สถานการณ์การเคลื่อนตัวของแม๊กม่า ของเปลือกโลก ของสนามแม่เหล็กโลกเร็วกว่าที่คาดการณ์เป็นทวีคูณ ไปทุกๆครั้งที่ตรวจสอบ คือ ตรวจสอบที ก็เร็วไป ๔ เท่าทีหนึ่ง

ดังนั้น นักวิชาการอิสระ   นักวิทยาศาสตร์   นักศาสนศาสตร์ นักพลังจกัวาลศาสตร์   นักมนุษย์ต่างดาวศาสตร์ ต่างฝ่าย ต่างศึกษาค้นคว้า และมาคาดการณ์ตรงกันว่า วันเิร่มต้นของอภิมหาพิบัติภัย น่าจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘  (2015 ) ไปถึงเดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐ (2017)  ถึงจะเริ่มเบาลง

หากถามว่าจะเกิดแน่นอนไหม ????

ตามข้อมูลในปัจจุบันก็ต้องบอกว่าแน่นอน

แต่เมื่อเราทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าแล้ว มนุษย์ย่อมกลัวตาย มุ่งมีชีวิตอยู่ มากกว่ามุ่งฆ่าตัวตายแบบที่ซิกมั่น ฟอร์ย์ กล่าวไว้

ดังนั้น มนุษย์ก็หาทางเอาตัวรอด

Chemtrail และ HARRP และ CERN เป็นอุปกรณ์หนึ่งในการเอาตัวรอดของมนุษย์ หรือ ลดอันตรายจากภัยพิบัติ นอกเหนือไปจากการสร้างดาวเทียม และสถานีอวกาศลับ เพื่อภาระกิจบางอย่างที่ไม่เปิดเผย

ดังนั้น หากเราเตรียมทุกอย่างพร้อม สถานทีที่จะไป แผนการเดินทาง เมื่อถึงเวลาไม่ว่าผมเตือน หรือ ภาครัฐเตือน ท่านก็ปฏิบัติตามแผนการที่เตรียมการไว้ท่านก็มีโอกาสรอดปลอดภัยสูงจากคนที่ประมาท จากคนที่ไม่เตรียมการแล้สใช่ไหม

อ้าว แล้วหากไม่เกิดตามที่คาดการณ์หละ ใครจะรับผิดชอบ ????

ไม่มีใครรับผิดชอบชีวิตท่านได้ นอกจากตัวท่านเองนะครับ
ท่านศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อตัวท่านเองและครอบครัวนะครับ

ส่วนสิ่งของที่เตรียมไว้ ก็เป็นของท่านเอง ท่านได้ใช้ ท่านได้กิน หรือ ท่านมีที่ดินเพิ่ม

ไม่ว่า อาหาร น้ำ ยา อุปกรณ์ ที่ดิน ที่ท่านเตรียมไว้ ซื้อไว้ในวันนี้ วันหน้าราคานี้ซื้อได้ไหมครับ ???? ท่านมีมูลค่าเพิ่มในตัวของมันอยู่แล้ว

อะไรจะเกิด หรือ ไม่เกิด ท่านพิจารณาเองนะครับ

สำหรับเหตุการณ์ที่เนลปาล เมื่อวานเช้าผมได้ข้อมูลเดิมที่วนมาใหม่ ตามภาพที่ ๒--๕ ที่บ่งบอกว่าสนามแม่เหล็กโลก เคลื่นที่เข้าหากัน ขั้วเหนือเคลื่นลงใต้ ขั้สใต้เคลื่อนขึ้นเหนือ โดยขั้วเหนือเคลือ่นที่เร็วกว่าขั้วโลกใต้ ทำให่จุดพบกันระหว่างขั้วโลก้กนือ กับขั้วโลกใต้ น่าจะอยู่ที่บริเวณระหว่างเกาะชวากับออสเตรเลีย

การดันลงของแผ่นยูเรเซียที่เนปาล กับ ที่ญี่ปุ่น ตยเิกดแผ่นดินงอก ตอกชัดว่ามันกำลังเกิดขึ้นตามการคาดารณ์ที่ว่าจากตุลาคมนี้ไป ผจญภัยสุดของฟ้าที่น้องเอ๊ะตั้งจะเกิดขึ้นอย่างค่อนข้างแน่นอน ๙๙.๙๙ % นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: