จักรราศี

จักรราศีตอนที่ 1
sonteen theory ทฤษฎีส้นตีน 11 

ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วรู้สึกขัดใจ ก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆจะได้ไม่ผิดใจกันครับ

ชีวิตไม่ใช่เรื่องยากหากรู้จักจักรราศี แต่การรู้จักจักรราศี ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยากมาก

จักรราศี มาจากคำว่า...จักร + ราศี  คือการหมุนของรูปนามในวงกลม จักรมี 2 ฝาคือฝาในกับฝานอก
จักรฝาใน คือการหมุนวนขวาตามโลก ของรูปนาม  ในที่นี้หมายเอาเทพฯ พระเคราะห์ทั้ง ๘ องค์
จักรฝานอก คือการหมุนวนซ้ายของวงกลมฝานอก 1 รอบ 360 องศา นำมาแบ่งเป็นส่วนๆ เรียกว่าราศี

ราศี ในวิชาโหราศาสตร์แบ่งเป็น 12 ส่วน ราศีวันมี ๑๒ ราศีทุกวัน (อยู่ภายในในราศีเดือน) ใน ๑ ปีจะมีราศีเดือน ๑๒ ราศีๆจะแบ่งสักกี่ส่วนก็ได้แล้วแต่ลักษณะที่จะนำไปใช้    ดังตัวอย่างตำนานสงกรานต์เรื่องท้าวกบิลพรหมลงมาถามปัญหาธรรมกับธรรมบาลกุมาร ที่ว่า ข้อ ๑.เช้าราศีอยู่แห่งใด ข้อ ๒.เที่ยงราศีอยู่แห่งใด ข้อ ๓. ค่ำราศีอยู่แห่งใดนั้น  ก็เป็นราศีสถานที่ของร่างกายที่แบ่งเป็น 3 ส่วน ใน 1 วัน

แสดงจักราศี 2 ฝาที่หมุนสวนทางกัน ทักษา ๘ เทวเคราะห์ เป็นฝาในหมุนวนขวา ราศีเป็นฝานอกหมุนวนซ้าย
โดยบูรพาจารย์ได้แบ่งเรื่องที่มนุษย์ต้องเจอทั้งหมดมี 12 เรื่อง เรียกว่า 12 ภพหรือเรือนชะตาบรรจุลงใน 12 ราศี   ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใด   หรือไปอยู่ที่ภพภูมิไหน จักรวาลใด  มนุษย์ก็จะมีแค่ 12 เรื่องนี้เท่านั้น (ดูรายละเอียดในบทความจักราศีตอนที่ 2 )

จะเห็นว่า 12 ราศีเป็นแกนแนวตั้งหรือแกน XY  จะมีสิ่งต่างๆ เรื่องราวต่างๆปรากฏออกมา  ตามเวลาที่หมุนวนขวาเข้าไป   เวลาที่หมุนเข้าไปเป็นแกนแนวนอน หรือแกน Z จะคิดเป็น นาโนวินาที วัน เดือน ปี ถึงมหากัปป์ก็ได้  เป็นการยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ

ราศีท้องฟ้า หรือจักระฝานอก  ที่จะหมุนมาให้เจอในอนาคต
ในวิชาโหราศาสตร์ (โหรา แปลว่า ๒ ด้าน ศาสตร์แปลว่าวิชา ) คือด้านมืดกับด้านสว่าง หรือภาคกลางวันกับภาคกลางคืน ฯลฯ  ใช้หลักดวงดาว ๘ ดวง (คือธาตุ ๔ สองด้าน) เป็นผู้วางกรอบจักราศีโดยมีลักษณะการเรียงดังนี้

เรียงตามความสว่าง จากชั้นในออกไป  อาทิตย์ ๑ พุธ ๔ ศุกร์ ๖ อังคาร ๓ พฤหัส ๕ เสาร์ ๗  ค่ำมืด
เรียงตามความมืด จากชั้นนอกกลับเข้ามา   ราหู ๘ พฤหัส ๕ อังคาร ๓ ศุกร์ ๖ พุธ ๔ จันทร์ ๒ สว่าง

ลักษณะการหมุน   จักระฝาในก็คืออาตัวเราเองหมุนเข้าไปตามรูปดวงกำเนิด  จากแรกเกิด วนไปๆ ก็เจอธาตุ ๔ ดาว ๘ ราศี ๑๒  ว่ารุ่งเรืองหรือตกต่ำตอนไหน เรื่องใด ตามที่มีบันทึกไว้ในรูกดวงชะตากำเนิด

โหราศาสตร์แบ่งราศีท้องฟ้าเป็น 12 ราศีๆละ 30 องศา แต่อันโตนาทีไม่เท่ากันดังรูป (เหตุที่อันโตนาทีไม่เท่ากัน เพราะเส้นระวิมรรคเป็นวงรี ช่วงที่โลกโคจรเข้าใค้งจะใช้เวลามากกว่าช่วงอื่นๆ

ชีวิตเบื้องต้น    ตั้งแต่ราศีเมษไฟ /พฤษดิน/มิถุนลม /กรกฏน้ำ.......ไฟ ดิน ลม น้ำ  
ชีวิตเบื้องกลาง  ตั้งแต่ราศีสิงห์ไฟ /กันย์ดิน /ตุลย์ลม /พิจิกน้ำ ..... ไฟ ดิน ลม น้ำ
ชีวิตเบื้องปลาย  ตั้งแต่นาศีธนูไฟ /มังกรดิน /กุมม์ลม /มีนน้ำ .... ...ไฟ ดิน ลม น้ำ

1. ราศีแบบสุริยคติ นับ 1 จากพระอาทิตย์ยกเข้าราศีเมษ วนไปตามเส้นระวิมรรค   มีวิธีดูว่าราศีอยู่ตรงไหนคร่าวๆโดยสังเกตุดูดวงอาทิตย์ที่ตำแหน่งขอบฟ้าทิศตะวันออกตอนเช้าตรู่   หากดูประจำเทียบกับสิ่งปลูกสร้าง หรือต้นไม้ใหญ่ จะรู้ วัน เดือน ปี เพียงแค่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกเท่านั้น ผมเคยทำครับ หรือจะดู เทียบกับดาวจักรราศี โดยการดูพระจันทร์เพียง 1 เดือนก็เห็นดวงดาวจักรราศีทั้งหมด แต่ต้องดูเป็นปีจึงจะรู้

ปัญหาการผูกดวงเทียบกับราศีท้องฟ้าคือ   ปฏิทินโหรปัจจุบันมี 2 ระบบ นิรายนะ (ระบบคงที่ เข้าราศีเมษ 13 เมย.ถือดาวฤกษ์เป็นเกณท์ ผมใช้ระบบนี้) ระบบ สายนะ (เข้าราศีเมษ 21 มีค.เบี่ยงเบนตามบ่วงโลกที่คล้องพระอาทิตย์ ผมเรียกราหูตัวพ่อ แต่เขาว่าเป็นค่าอายนางศะ) เรื่องปฏิทินกูรูผู้รู้ก็ยังเถียงกันไม่จบ  ท่านลองไปหาอ่านดูเองครับ

2. ราศีแบบจันทรคติ หมอดูบางคนใช้วิธีนี้คือ นับ 1 จาก ขึ้น ๑ ค่ำเดือน 5 ราศีเมษวนไปๆๆ
ราศีเมษ - เดือน 5 พฤษ -เดือน 6 มิถุน - เดิอน 7 กรกฏ - เดือน 8 สิงห์ -เดือน 9 กันย์ - เดือน 10 ตุลย์ - เดือน 11 พิจิก - เดือน 12 ธนู-เดือนอ้าย มังกร -เดือนยี่ กุมม์ เดือน 3 มีน -เดือน 4

ปัญหาคือปีอธิกมาส เดือน ๘ สองหน จะนับยังไง....หลักโบราณใช้โยคกับเวลาจริง ที่ไม่ใช่เวลานาฬิกา แต่ตรงนี้ยากมาก เพราะต้องอ่านดวงออกจริงๆ จึงจะรู้เวลาจริง

3.ราศีนับจากส่วนต่างๆของร่างกาย รงนี้จากตำราทั่วไป  ใช้ดูสภาพร่างกายของผู้มาดูได้ว่าราศีใดมีปัญหา  โดยการสังเกตุจากภายนอก  แต่ผมไม่ได้เป็นหมอดูใช้แบบระบบธาตุเป็นหลัก เพื่อความเข้าใจโลก
ราศีเมษ- ศีรษะ ใบหน้า ตั้งแต่หัวถึงคาง // ราศีพฤษภ - คอ ระบบทางเดินหายใจ // ราศีเมถุน-แขน มือ หัวไหล่  // ราศีกรกฏ-ทรวงอก เต้านม // ราศีสิงห์ -สีข้าง แผ่นหลัง ชายโครง หัวใจ ระบบสูบฉีดโลหิต //ราศีกันย์-ลำไส้  ช่องท้อง  กระเพาะอาหาร //ราศีตุลย์-บั้นเอว ท้องน้อย กระเพาะปัสสาวะ ไต มดลูก//ราศีพิจิก- อวัยวะเพศ เครื่องเพศ ก้นกบ สะโพก ไข่ดัน//ราศีธนู-โคนขา ,หัวไหล่ (ผมนึกเอาเอง)// ราศีมังกร โคนขาท่อนล่าง-ท่อนแขน (ผมเอง) โคนขา // ราศีกุมภ์- ขา  หน้าแข้ง  น่อง,ศอกถึงมือ (ผมเอง) //ราศีมีน - เท้า ข้อเท้า ,มือ ปลายมือ (ผมเอง)

4.ราศีเฉพาะรูปนาม  ใช้ดวงดาวภาคพื้นดิน  วิชาโหงวเฮ้งดูดาวดูราศีบนใบหน้า   วิชาดูลายมือดูดวงดาวดูราศี และลายเส้นบนมือ วิชา ฯลฯ  ข้อดีคือไม่ต้องไปสนใจดวงดาวบนฟ้า ว่าอยูตรงไหนบ้าง ไม่ต้องไปปวดหัวกับปฏิทินที่มีหลายระบบ  ที่พาให้งง เปรีบยเทีบ มีแบบใช้ปฏิทินจันทรคติ หรือเอาเฉพาะ

5.ราศีบ้านที่อยู่อาศัย  ตรงนี้ผมใช้เป็นประจำ  คือใช้เลขฐาน 12 เช็คดูว่าบ้านหลังนั้นนี้เป็นราศีใด ทำเรื่องอะไรรุ่ง เรืองอะไรติดขัด  บ้านเป็นราศีไหน ให้คิดเอาเอง คนมีพื้นฐานคิดหน่อยก็รู้แล้ว


ตำแหน่งดวงดาวมาตรฐานด้านดีในแต่ละราศี หากพระเคราะห์อยู่ตรงข้ามคือไม่ดี  คือด้อย (หลักการเข้าใจระดับพื้นฐาน )  หากเอารูปนามของท่านหมุนเข้าไปในแต่ละราศี จะไปเจออะไร จะแก้ยังไง เตรียมตัวยังไง 

ในราศีเดียวกันจะมีสรรพสัตว์เกิดขึ้นในทุกสถานที่บนโลก  งอกผุดออกมา  เฉพาะประเทศไทยปี 2560  มีคนที่เกิดในจักรราศี ทั้ง 12 ถึง70 ล้านคน เฉลี่ยก็ราศีละเกือบ 6 ล้านคน  เกิดมาคนละปีคนละศักราช คนละยุคกัน เกิด แก่ เจ็บ ตาย วนเวียน  ลองทายลงเฟสฯ ว่าเดือนนี้คนราศีนี้จะมีลาภดู  5 ล้านกว่าคนต้องมีสักคนที่ถูก


าศี ๑๒ มาจากธาตุ ๔ สามกอง คือ เบื้องต้น เบื้องกลาง เบื้องปลาย ไฟดินลมน้ำวนไปๆ
เป็นกองเวลา คือไฟกินดิน ดินกินลม ลมกินน้ำ น้ำกินไฟ ้ป็นเวลา ๑ รอบ มิติจะเล็กจะใหญ่เท่าใดก็ได้ 1 นาโนวินาทีก็ได้ 1 มหากัปป์ก็ได้  แต่ที่ใช้จริงคือรอบวัน เดือน ปี และศกของปีนกษัตริย์

เป็นกองนาม คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ว่านั่นคือรูป นั่นคือน้ำ นั่นคือลม นั่นคือไฟ

ธาตุ ๘ มาจากธาตุ ๔
  สี่คู่คือ 4 x 2 ตามรูป สังเกตุพระเคราะห์ที่อยู่ตรงกันจะเป็นธาตุเดียวกัน แต่คนละเพศ

ธาตุ ๔ ธาตุ ๘ ธาตุ ๑๖ ความหมายที่แท้จริงเป็นเช่นไร  เป็นเรื่องมหัศจรรย์

การหมุนของคน เดินไป นั่งรถไป ไปที่ทำงาน ไปห้าง กลับมาบ้าน ฯลฯวันหนึ่งเป็นวงกลม  1 รอบ 24 ชั่วโมงก็อยู่แค่ในราศีเดียวของโลกคือราศีเดือน  แต่ครบ 12 ราศีวัน ราศีของการดำเนินวิถีชีวิต     การกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด หากมีสติปัญญาพอก็ทำไป  ไม่ต้องสนใจเรื่องดวงให้มากนัก  แต่หากท่านเจอหมอดูที่รู้จริงเชื่อถือได้   ถือว่าเป็นการเพิ่มความระวังอีกขั้นหนึ่ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือหากต้องไปเผชิญหน้ากับคู่กรณีที่อาจมีระดับ สูงเด่น หรือเหนือกว่าเราเป็นต้น

กลับไป ทฤษฎีส้นตีนตอนที่ 1

ไม่มีความคิดเห็น: