พระจันทร์

Sonteen Theory 4
พระจันทร์มารดาแห่งโลก
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วรู้สึกขัดใจ ก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆ จะได้ไม่ผิดใจกันครับ


พระอิศวรชุบพระจันทร์มาจากนางฟ้า ๑๕ องค์ ออกมาจากภูมิกลางเข้าทางทิศใต้ผ่านแดนพระพุธ โคจรรอบเขาพระสุเมร ๒ รอบแล้วไปประจำอยู่ทางทิศบูรพา เลขโสฬส  เกิดจากธาตุไฟใหญ่ ๑ และธาตุดินแข็ง ๕ ได้ ๖ เติมกำลังนพเก้า ๙ เพราะถือเป็นดาวศุภเคราะห์  จึงได้กำลัง ๑๕




พระจันทร์บนฟ้าหมุนวนขวาดูดธาตุดวงดาวต่างๆ  มาจากคลังสมบัติของพระเคราะห์อื่นๆ มาให้พระราหูเก็บไว้ในคลัง (บ่วงสีเทาฟ้ารอบโลก)  ยานพาหนะของพระจันทร์คือม้า จะเคลื่อนที่เร็วกว่าพาหนะเทวดาองค์อื่น พระจันทร์ขี่ม้าผ่านเข้าปากพระราหูทุกเดือน   แต่ท่านไม่ยอมอม คือท่านให้ผ่านพ้นไป  คิดแบบวิชาดาราศาสตร   ก็เป็นเพราะว่าระนาบบ่วงดวงจันทร์กับบ่วงโลก  ไม่ได้ซ้อนไม่ได้ทับกัน หรือเหลื่อมกันได้นิ๊ดๆ  หลวงกล้วยบอกว่าพระจันทร์เป็น circular valve หรือวาล์ววงกลมชนิดหนึ่ง   เหมือนดาวพระเคราะห์อื่นที่หมุนๆถ่ายเทพลังงานเข้าออกได้ในเวลาเดียวกัน

คนที่อยู่ในภาวะจิตอ่อนถูกผีเข้าได้ง่าย หลายรายในวันงานพิธีสำคัญ ก็โดนตายายโนราลงประทับทรง ลุกขึ้นรำป้อพอได้ยินเสียงปี่ กลอง ทับโนรา รำได้สวยเหมือนฝึกมานาน ทั้งที่ปกติรำไม่เคยเป็น เรื่องราวจากท้องถิ่นอื่นก็มีคนเล่าเหมือนกันว่า หลายรายเต้นระบำรำฟ้อนได้ โดยที่ไม่เคยได้ฝึกหัดมาก่อน ฯลฯ หมอดูบางท่านบอกว่า คนเช่นนี้จะต้องเกิดวันจันทร์ พระจันทร์ในดวงอ่อน.. จริงหรือไม่? เรื่องนี้ท่านต้องพิสูจน์เอาเอง ที่ผมเคยเจอเองก็มีจริง แต่จะให้สรุปฟันธงแบบหมอลักษณ์นั้น.. ยัง..ยังก่อน 

ในวิชาทางโหราศาสตร์  หรือว่าทางดูหมอ หรือว่าแลเกณท์ภาษาใต้สมัยแม่เฒ่า ท่านถือว่าพระจันทร์เป็นมารดาแห่งโลก  ผู้เลี้ยงดูบุตร  ผู้เชื่อมต่อมิติ  ประตูต่างๆ ทั้งโลกวิญญาน และโลกมนุษย์ให้ต่อถึงกัน
โลกเป็นพระเคราะห์ดวงเดียวที่มีธาตุน้ำสมบูรณ์   ธาตุน้ำคือวิญญานธาตุที่สามารถเชื่อมต่อเซลต่างๆ ได้ถึงระดับจุลจักรวาล  หรือปรมณูธาตุ  โลกหมุนไปทางขวาหรือทิศตะวันออก  ชั้นนอกถึงชั้นใน  รับมวลสารชีวธาตุต่างๆ เข้ามาจากคลังพระราหู  รับแสงสว่าง/ความร้อนจากพระอาทิตย์เป็นอุตุธาตุ   เข้ามาตัดผสมผสานกับบรรยากาศ   และสรรพธาตุต่างๆในโลก  หลายระดับตั้งแต่จุลธาตุ ถึงมหาธาตุ   เชื่อมเซลต่างๆเข้าด้วยกัน เซลต่างๆสามารถสื่อสารข้อมูลและส่งมวลสารต่างๆถึงกันได้   มีสัญญาจำได้หมายรู้   เมื่อครบกระบวนการจึงก่อให้เกิดเป็นชีวิต งอกออกมา  ผุดออกมาโตออกมา  นั่นคือการวนซ้ายออกมาจากแกนเวลา  เรียกว่ามีชืวิตละครอันน่าอัศจรรย์ การปรุ่งแต่งแห่งเทวธาตุ  อมตยาวนานชั่วกาลกาเล

พระจันทร์เทวธาตุ  หรือพระเคราะห์ธาตุในวิชาดูหมอ โบราณบอกไว้ว่า ทายเกียรติ์ทายยศ ให้ทายอาทิตย์ ทายมารยาจริตให้ทายจันทร์   ก็แปลตามตัว ว่าพระจันทร์ดี ให้คุณทางจริตมรรยา ไอ้โน่น ไอ้นี่ ไอ้นั่น เป็นคอนเน็คชั่นที่ดี ไม่มีซึมเซา  การกระทำใดๆที่มีจริตงดงาม  คล่องแคล่วยอมนำมาซึ่งเสน่ห์ เป็นที่นิยมชมชอบ จันทร์ในดวงเสีย ก็อารมย์บ่อจอย ก้าวร้าว แข็งกระด้าง ขาดเสน่ห์ เข้ากับใครได้ไม่นาน มีปัญหา..  บอกเล่าโดยคร่าวๆ เป็นตัวอย่างเรื่องอารมย์ เรื่องทางโลกธาตุมีหลายเรื่อง  หลายชั้น วรรณ ครรธพ รส โอชา

จันทร์ทางทักษา เป็นกาลกิณีของพระอังคาร  คือเกิดวันอังคารๆเป็นบริวาร หรืออาจใช้ยามกาลชะตา แต่ถ้าเอาแนวผม แนวกวนส้นตีน   ผมชอบแนวนรลักษณ์ศาสตร์มากกว่า แต่ก็ใช้ทั้ง 2 แนว  เพราะขี้เกียจไปคำนวณหาเวลา  เพราะว่าเรียนตกวิชาเลข  แต่ผมก็ไม่ได้เป็นหมอดู    แต่ก็ถือว่ากาลกิณีคือตัวจบ ตัวสุดท้ายก่อนเช้า 6 น. ให้พระจันทร์เป็นเจ้า ตอนต้องการจบ(กรณีพระอังคารเป็นบริวาร) หลังจากกระทำตามวิถีพระเคราะห์อื่นทั้ง 7 องค์ครบเรียบร้อยแล้ว ทางทักษา ผมเดาเอาว่าทักษมาจากทักษิณา   กาลกิณีก็คือกาลเวลาท้ายสุด


ยก ตย.พระอังคารเป็นบริวาร (ดูรูปข้างบน )  คือคนเกิดวันอังคาร ก็ให้เริ่มกระทำทักษิณาหรือว่ากิน หรือนับ 1 ที่ตัวอายุก่อน  คือพระพุธ  ตามโบราณว่า ทายกล้าแข็งให้ทายอังคาร ทายอ่อนหวานให้ทายพุธ ทายปัญญาบริสุทธ์ให้ทายพฤหัสฯ คือให้เริ่มจากพูดจาให้ไพราะ อ่อนหวาน  พูดดีมีหลักการณ์  เรียนวิชาและคิดวิเคราะห์ให้ละเอียด รอบคอบ ตามลักษณะพระพุธ  แล้วก็วนไปๆพระ ๗ ๕ ๘ ๖ ๑  จบตัวสุดท้ายที่พระ ๒ คือพระจันทร์ ตัวกาลกิณี ก็ฝึกให้มีจริตมีมรรยาดี   มีคอนเนคชั่นประสานงานให้ดีเยี่ยม ก็จะจบได้แบบแฮบปี้เอ็นดิ้ง HPD กาลกิณีนำโขค นำความสุขมาให้ ชัยชนะก็จะเป็นของเทวดานามพระอังคารคือแข็งแกร่งและฉลาด แต่ในชีวิตจริง มนุษย์ทุกคนจะมีจุดบอดที่เทวดาองค์ใดองค์หนึ่งเสมอ บางคนก็บอดหลายองคค์ ชีวิตจึงมืดมนต์ อสุระ ไร้แสงสว่าง ทุกช์ถมทวี

พระจันทร์ทางจักรราศีเป็นเกษตรราศีกรกฏ  คือธาตุต้นน้ำ ภพพันธุโลก แปลว่ามารดาโลก มารดาครอบครัว มารดาพรรคการเมือง (เลขานุการพรรค) ฯลฯ ไล่ไปๆ ให้ครบ ๙ ชั้น บุคคล ๑๒ ราศี  ๑๐๘ พระเคราะห์ ๆ ๙ ชั้น  9 * 108 เท่ากับ 972 เรื่อง รวมทั้ง 12 ปีนกษัตริย์ ก็เอา 972 *12 = 11,664 บุคคล เอาพิกัดองศาลิปดามาคิด รวมเรื่องอื่นๆอีก 108 เรื่อง ก็เป็น หมื่นล้านถึงอนันตบุคคล ไล่ให้ครบก็เข้าใจจักรราศี เข้าใจบุคคล   เอาไปรวมกับเรื่องทักษา เทวดา ๘ องค์ อสูร ๘ องค์ เข้าใจหมดสิ้น  เป็นหมอดูได้สบาย   แต่ผมว่าควรไปทำงานอื่นดีกว่า อยู่กับปัญหาของมนุษย์  ปวดหัวตาย..ขอบอก นอกจากใจรักจริงๆ หรือชอบจริงก็หาปัจจัยใส่กระเป๋า ได้ง่าย  ไม่เสียเหงื่อ

เรื่อง ๑๐๘  มาจากพระเคราะห์เสวยอายุและเสวยแทรก และโคจรใน  12 เรือนชะตาราศี  8 พระเคราะห์แบ่งเป็น 108 นวางค์ จริงๆก็วนอยู่ที่ 3-4 - 8 - 12  วิชาดูหมอ  ใครดูหมอเป็นมักจะมีเสน่ห์ การดูหมอมีหลายวิชา คนธรรมดาแถวบ้านนอกทั่วไป   ได้ดูหมอแล้วสนุก   แม้ว่าหมอจะดูมั่วมั่งผืดมั่ง ถูกมั่ง ก็ยังดีขอให้มีคนเป็นที่พึ่ง   ที่ยอมรับฟังเรื่องราวความทุกข์ ให้ได้ระบาย ไม่ทับถมกดดันจิตใจมากเกินไป   เจอหมอดูมีนิสสัยดี ใจดี   ได้ระบายเรื่องทุกข์ที่เก็บกดไว้ไปมากๆ ก็คลายทุกข์ได้เยอะแล้ว    บางทีหมอดูก็รับทุกช์รับเคราะห์ไปแทน เพราะฟังแต่เรื่องไม่ดีมากๆ เครียดเอง  ใจห่อเหี่ยว แต่หมอดูบอกว่า   โดนเจ้ากรรมนายเวรคนที่มาดูหมอทำ

พระจันทร์ทางธาตุถือเป็นธาตุดินดิบ ดินเก่า รูปนามเก่า  คือเซลที่มีตัวตน  มีหลายระดับชั้นเช่น ผีแม่นาค รุกขเทวดา  มะเขือ แตงกวา ดินจริงๆ ศูนย์อาหาร สรรพสัตว์ ฝนที่ตก น้ำที่ไหล ฯลฯ ที่เอาไปผ่านกรรมวิธี หรือโพรเสดออกมาเป็นธาตุดินใหม่คือ ดาวพฤหัสบ่ดี

วิชาโหราศาสตร์  พระจันทร์เป็นมหาจักร์ที่ราศีเมษ   มหาอุจจ์ที่ราศีพฤษ เป็นเกษตรที่ราศีกรกฏ  ราชาโชคที่ราศีกันย์ นิจที่ราศีพิจิก ประที่ราศีมังกร แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้นบัญญัติเช่นนั้น    ก็จำต่อๆกันมา ไม่ต้องโยโสมนัสสิการ   แต่มีคนโยโสฯ คิดออก   เมื่อคิดออกก็เชื่อได้ว่าไม่บอกต่อ ถือว่าใจไม่ได้ก็ไม่สมควรรู้ ใจได้แล้วจะรู้เอง  โหราศาสตร์เป็นเรื่องเหตุและผล แต่ลึกลับ ซ่อนกลแต่คนธาตุน้ำลึกระดับสีทันดรมหาสมุทร  จะซ่อนยังไงก็หาจนเจอครับ

พระจันทร์ยังเป็นนาฬิกาบอกเวลา คือ บอกวันขึ้นแรม เดือน ปีนกษัตริย์ ปฏิทินจีนไม่ใช้ขึ้นแรมนับเป็นวันที่   อย่างคนเกิดวันที่ ๑๙ พย.แรม ๔ ค่ำ ก็คือเกิดวันที่ ๑๙ อาทิตย์ และ ๑๙ จันทร์ พระจันทร์หมุนรอบโลกใช้เวลา ๒๘ วันเศษ จึงต้องมีการทดให้ตรงกับ โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์เพื่อให้ ปีเดือน ตรงกัน  จึงต้องมีปี ปกติวาระอธิกวาระ ปกติมาสและอธิกมาส เพิ่มเข้ามา

เดือนทางจันทรคติมี 12 เดือน
ปกติวาร อธิกวารคือ  เดือนคู่มี 30 วันคือมีถึงวันขึ้นและแรม ๑๕ ค่ำครบ 2 ปักษ์  เดือนคี่ เดือน ๑-๓-๕-๗-๙ -๑๑ จะมีแค่ 29 วัน คือวันข้างแรมสุดท้ายจบที่ แรม ๑๔ ค่ำ  ปีอธิกวาระจะเพิ่มแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๗ มาอีก ๑ วัน

ปกติมาส อธิกมาสคือ ปีปกติมาสจะมีเดือน ๘ หนเดียว ปีอธิกมาส จะมีเดือนแปด  2 หน
พอเป็นกษัยครับ  ทฤษฎีกวนส้นตีน  เขียนขึ้นมาเล่นๆกวนชาวบ้าน และฝากเฟสฯ ไว้เป็นหลักฐานครับ

Back to ทฤษฎีส้นตีน 1   forword to ทฤษฏีส้นตีน 5

ไม่มีความคิดเห็น: