เทวดา ๘ องค์

sonteen theory ทฤษฎีส้นตีน 2  
ทฤษฎีส้นตีน เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นมาเล่นๆตามความคิดเห็นส่วนตัว  เหมาะสำหรับคนบ้าเท่านั้น  คนดีๆไม่ควรอ่าน  หากอ่านไปแล้วก็ไม่ควรคอมเม้นท์ใดๆ จะได้ไม่ผิดใจกันครับ

เทวดา ๘ องค์  ทฤษฎีนี้จะกล่าวถึง ๘ เทวดาเป็นหลัก  เทวดาเน้นว่าเป็นองค์ไม่ใช่รูป มีแกนกลางเขียนไว้ด้วยเลข  ๙  เทวดาคืออะไรก็คล้ายพระเจ้าคืออะไร

เทวดาแนวบุคลาธิษฐาน อันมีหิริโอตตัปป  ความละอายความเกรงกลัวต่อบาป  เป็นคุณธรรมเบื้องต้น ที่ทำให้มีความเจริญทางจิต ทำให้จิตเบาสะอาดได้นั้น ฟังหลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าจะดีกว่าครับ (บุคลาธิษฐาน หมายถึง การเปรียบเทียบให้เป็นบุคคลเพื่อง่ายต่อการอธิบายความ )

เทวดาที่หลวงกล้วยจะกล่าวถึง  เป็นแนวโลกธาตุ แนวธรรมชาติรวมทุกสิ่งทุกอย่างเป็นหลัก
เทว พลังเทว คือสภาวของพลังงานอันประณีตที่ควบคุมมนุษย์  ทั้งในด้านอารมย์ ความคิด และการเสื่อมการเจริญ การประสบโชคดีโชคร้ายต่อวิถืชีวิต เป็นต้น



โหราศาสตร์ คือวิชาว่าด้วยเรื่อง 2 ด้านหรือคู่สำพันธ์ของโลก  เรื่องระดับโลกจะมี 2 ด้านเสมอ เหนือโลก สูงกว่าโลกจึงมีด้านเดียว มาจากคำว่าโหราคือ 2 ด้าน ศาสตร์คือวิชา   จึงหมายถึงวิชาว่าด้วยความสำพันธ์ของพลังงาน 2 ด้าน  ทีแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกันสร้างโลก  สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั่วไปกับทุกสาขาวิชา

ตัวอย่าง 2 ด้านคู่ตรงข้ามเช่น เลข 1/0 เทวอสูร หยาง/หยิน สว่างมืด ร้อนเย็น ออกเข้า ตัวผู้ตัวเมีย ตัวพระตัวนาง ขึ้นลง ออกเข้า ขั้วบวกขั้วลบ เอลนิญโญลานิญาฯลฯ

ธาตุ ๔
ธาตุ ๔ คือธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ 4 ธาตุ เพิ่มคู่ใส่ลักษณะตัวผู้ตัวเมียเข้าไป  จึงได้เป็นธาตุ ๘ ตามศัพท์ "โหรา"มี ๒ ด้าน องค์ไหนเป็นหยางไหนเป็นหยิน พิจรณาจากลักษณะการดำเนินไป เข้าหรือออก  อยู่นอกหรือใน ตามรูป ของเรื่องนี้  

ธาตุ ๘   คือ เทวดา ๘ องค์มาจากธาตุ ๔ หรือมหาภูตรูป ๔   คือธาตุดิน  น้ำ  ลม ไฟ  รวมสี่คู่   เขียนเป็นสัญลักษณ์เลขไทย  ไฟ ๑๗ ดิน ๒๕ ลม ๓๘ น้ำ ๔๖ /(๑ อาทิตย์ ๗ เสาร์)  (๒ จันทร์ ๕ พฤหัสฯ) (๓ อังคาร ๘ ราหู)  (๔ พุธ ๖ ศุกร์ )

ธาตุ ๑๖  คือธาตุ๘ สองด้าน ด้านมืดกับด้านสว่าง เป็นยังไงก็คิดเอาเองครับ

ธาตุ ๔  คือสิ่งที่ไม่ตาย คือสิ่งที่แยกต่อไม่ได้อีกแล้ว เป็นสิ่งที่เป็นอมต   โลกธาตุคือสิ่งที่ประกอบจากธาตุ
โลก  แปลว่า  สิ่งที่ต้องแตกสลาย คือแตกคืนกลับเป็นธาตุ ๔ หรือคืนธาตุเดิม ธาตุตั้งต้น
โลกธาตุ หมายถึง ธาตุประกอบกันเป็นโลก คติโบราณหมายถึงสิ่งมีชีวิตทั่วไป มี พรหม เทวดา ชาวสวรรค์ มนุษย์ เดรัจฉาน พืชสัตว์นรก เทวอสูรฯลฯ เป็นสิ่งที่ต้องแตกสลายคืนกลับสู่ธาตุเดิม เมื่อครบกำหนดเวลาหรืออาจจะแตกดับก่อนตามเหตุปัจจัย


สว่าง กับ มืด   คือ 2 พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ในทุกภพ ทุกจักรวาล แต่จะกล่าวเฉพาะเรื่องบนโลก
ด้านสว่าง/สุร =   พระอาทิตย์เป็นหัวหน้าทางจักรวาล  สุระ แปลว่า ผู้กล้าคือเทว คือมีแสงสว่าง ระดับมนุษย์คือมีปัญญา มีควมเจริญในธรรม เบาจิต เบาใจ สะอาด สงบ

ด้านมืด/อสุร =  พระราหูคืออสุระ   คือโลกผู้ยิ่งใหญ่  ผู้ทำให้เกิดความมืด ๙ ชั้น เพราะมืดจึงมองเห็นดวงดาวระยิบระยับ ดวงดาวระยิบระยับ คือแสงสีที่ปรุงแต่งโลก  ถ้าไม่มืด ถ้าไม่ลุ่มหลงก็ปรุงแต่งเรื่องราวอันใดไม่ได้ ในทางธรรม คือสุขแบบลุ่มหลงเพลิดเพลิน สุขแบบต้องแบกหาม หนัก

ระดับมนุษย์ สร้างโลกจากความ โลภ โกรธ หลง  อารมย์ หนักจิต แบกภาระ ครุ่นคิดหาโลกทรัพย์  มีอำนาจในการสร้างสรร มายาคติ  นวัตกรรมต่างๆต่างๆ

พระอาทิตย์ เทวดาองค์ที ๑
พระอาทิตย์ เลข ๑ ผู้ยิ่งใหญ่เป็นเจ้าจักรวาล ในทางดาราศาสตร์ แต่ทางโหราศาสตร์มีกำลังแค่ 6 น้อยที่สุดในบรรดาเทวทั้ง ๘  ทำไมบูรพาจารย์จึงได้บัญญัติกำลังไว้น้อย    อาจเป็นเพราะเรื่องการปรุงแต่งโลกพระอาทิตย์ไม่ใช่ตัวการหลักหรือองค์เทพหลัก   พระอาทิตย์มีแสงสีแดงสด แสงสีทอง หรือมี ๗ สี

ระดับจักรวาล ระดับตาเนื้อกายเนื้อสำผัสได้ คือดวงอาทิตย์  ผู้ทำให้เกิดการบองเห็นและสำผัสร้อนเย็น  คือประธานผู้จ่ายแสงสว่าง ความร้อน กระตุ้น ให้พระเคราะห์อื่น ได้ทำงาน  ลมได้พัด น้ำตาน้ำลายได้ไหล เป็นต้น คือกระให้จักรราศี ให้พระเคราะห์ทำงานได้   เป็นประธานหรือผู้เซ็นคำสั่ง

ระดับโลก แยกได้เป็นหลายชั้นซับซ้อน  เพราะโลกมีความซับซ้อนของเครื่องจักรกลชีวิตมากมายสุดจะพรรณา หลายระดับ ตั้งแต่พรหม เทวดาลงมา มนุษย์ถึง นรก

ในวิชาการทำนายทายทัก หมายถึงโรงไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า  แหล่งจ่ายพลังงานจากภายนอกทั่วไป ฯ
มีระดับคุณภาพทางโหราศาตร์ดวงดาวเป็น มหาอุจจ์ เกษตร ราชาโชค ประ นิจฯ


ระดับครอบครัว หมายถึงหัวหน้าครอบครัว ผู้เลี้ยงดูสมาชิก ระดับหน่วยงานหมายถึงหัวหน้าหน่วยงาน

ระดับธาตุ หมายถึงธาตุไฟ  ธาตุไฟคือความร้อนระดับกายสังขาร ๔ กอง  ระดับอารมย์คือความปรารถนาอยากทั้ง ๑๐๘ ประการ  คือหัวหน้า คือผู้มีเกียริ์ตยศ หยามไม่ได้ อยากทางไหนต้องประสมกับเทวาพระเคระห์อื่น

แต่เมือพระอาทิตย์มืด เป็นภาวะอสูรอาทิตย์ หรือถูกทำให้มืด กลายเป็นแสงสว่างที่มืดมัว เป็นเป็นภาวะเกียรติ์ที่เป็นโทษหยิง ทรนง วางตนอวดตน ทิฎฐิดื้อ ยกตนข่มท่าน หรือถูกใสร้ายป้ายสีให้เสื่อมเสียพระเกียรติ์ หรือว่าเป็นใหญ่มีเกียรติ์ ในหมูคนพาล หรือหัวหน้าโจร  หัวหน้าพ่อค้าขายของเถื่อนเป็นต้น

ลองสังเกตุเทวดาองค์ที่ ๑ ในตัวท่านเองว่าเป็นแบบไหหน เป็น เทวดาฝั่งเทพ หรือว่าฝั่งอสูรเทพ

เอาพอเป็นกษัยครับ .. เอาไว้ตอนต่อไป        คลิกกลับไปทฤษฎีส้นตีน 1        ทฤษฏีส้นตีน 3

ไม่มีความคิดเห็น: