ของลับ

        ปรัชญาของลับ  ของลับ เป็นของที่ไม่ค่อยเปิดให้เห็น ถ้าเปิดไปมันก็ไม่ลับ   มีตั้งแต่ระดับรูปชีวิต รูปวัตถุ เอกสาร ไปถึง อารมย์ ความคิด   และที่สูงเลยชั้นมนุษย์ ขึ้นไป      จนความสงสัยว่ามีอยู่ไหมก็อยู่นอกเหนือความคิดโดยบุคคลธรรมดาทั่วไปต้องมีเรื่องลับทุกคน อย่างน้อยสุดก็มีเรื่องของลับเป็นขั้นพื้นฐานไว้ให้ซุกซ่อน แต่พอฉลาดมาก เหลี่ยมมาก เห็นแก่ตัวมาก  ของลับยิ่งมีเยอะ  ไม่เหมือนบุคคลทั่วไปที่มีของลับน้อยพวกเขาจึงแค่ติดอยู่กับของลับขั้นพื้นฐานแบบที่ ๑ ซึ่งก็ไม่เสียหายอะไร ไม่น่ารังเกียจตรงไหน



ของลับแบบที่ ๑   คือของที่อยู่ในกางเกง หรือในกระโปรงที่มีกางเกงในหุ้มไว้อีกที เพราะมันเป็นของลับเขาจึงมักไม่เปิดให้ดูกัน ของลับมีกันทุกคน ก้มลงดูก็เห็นหากไม่อ้วนจนติดพุง แต่มักจะปิดกันไว้ไม่ค่อยให้ดู มักต้องเสียตังค์ ดูกันแบบจะๆ หรือดูตามวิดีโอ เวปไซด์(ประเทศไทยถือเป็นเวปฯลับ) หรือชอบพอกันจริงๆ ถึงจะดูได้  ส่วนใหญ่มักอยากดูของคนอื่นที่ชอบๆ กันมากกว่า ถ้าไม่มีตังค์ก็ดูของตัวเองแทนแต่คงเห็นจนเบื่อแล้ว  มันดีอย่างไร ไม่รู้ แต่ก็ช่วยให้คนมากมายได้ทำมาหากินกันจนร่ำรวย เด็กๆก็ได้เกิดกันมาไม่ขาด  แต่เมืองไทยมันแปลกตรงที่เวลาพวกด่าว่าผู้ชายบางที ก็ว่าไอ้หน้า หอหีบ สระ ? ดี หรือไม่พอใจใครก็ว่า คอ ออ ยอ เหมือนมันไม่ดี แต่คงไม่ใช่ หรือใช่ผมก็ไม่รู้ ประเทศอื่นไม่รู้ ผมรู้แต่คนมุสลิมชายแดนใต้เวลาด่า มักจะด่าว่า " บาบิ" หรือ "บาบิ บือซา " ซึ่งก็แปลว่า ไอ้หมู ด่าแรงก็ไอ้ หมูใหญ่ ฝรั่งที่เคยได้ยินก็ "กอดแดมป์ , เช็ทส์, ฟักยู " ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่อยู่ฐานผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย เมื่อช่วง พศ.2526 - 2539 ของชาติอื่นนี้ไม่รู้





แบบที่ ๒ .ของลับระดับสูง   ลับ ลวง พรางกันเยอะในชั้นนี้  ตั้งแต่ เอกสาร ความคิด พูดอย่างคิดอย่าง เขียนอย่างทำจริงอย่าง มักจะเป็นเรื่องโกหก เพื่อหวังผลบางอย่าง แต่ก็ยังอยู่ในปัญญา ฉลาดแบบระดับชั้นมนุษย์ คือมีของลับ หรือก็คือความลับเพื่อที่จะเอา ของคนอื่น ทางโลกทรัพย์ ร่างกาย และทรัพย์สิน ยิ่งระดับใหญ่ๆโตๆอย่างสส.รมต. รมช. ด้วยแล้วฝ่ายค้านต้องไปขุดคุ้ยหาเรื่องลับๆมาแฉจนได้ จนทำให้ชาวบ้านทึ่งในความความฉาดหลักแหลม ในการซ่อนของลับ  บางคนแค่คุมหน่วยงานรัฐบางหน่วยงานคุมไปนานๆ ก็มีเรื่องลับๆ ที่รู้เยอะสามารถเอาไปล็อปบี้คนอื่น ได้เงินเยอะๆจนร่ำรวยก็มี แต่สมองก็ต้องรับภาระหนักจนอาจเป็นมะเร็งได้  ชั้นนี้แม้จะลับมากเท่าไหร่  ก็ยังเป็นทรัพย์สินในชั้นมนุษย์

ความลับแบบที่ ๑ และ ๒ เป็นความลับที่มีกาล คือการเคลื่อนไป ทางโหราศาสตร์ โดยราศี ถือเอา ราศีพิจิก เป็นเรื่องของลับ เรื่องลับๆ โดยภพ ถือเอาภพที่ ๘ มรณภพ เป็นภพของลับเรื่องลับๆ เรื่องลับของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน  แต่ก็มีกันทุกคน ใครเป็นหมอดูสมัครเล่นหรือที่สมัครจริง มักทายเอาราศีพิจิก เป็นเรื่องลับๆ หรือใครมีดาวเด่น ในภพนี้มักเกี่ยวกับเรื่องลับๆ แต่ว่าเรื่องลับๆ คืออะไรอีก หากแยกธาตุแบบโบราณเก่ง ก็รู้เรื่องลับ เรื่องของลับดี เรื่องลับจึงไม่มีแก่นักปราชญ์ มีแต่แสงสว่าง ซึ่งไม่ใช่ของลับ ของลับจึงเป็นสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ที่มืด หรือที่หายากที่สุด


แบบที่ ๓.ของลับเหมือนกัน เป็นของลับชั้นสูงสุด  
ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นเพราะกิเลสยังหนา แถมยังบ้าเยอะ  พระว่าให้ถือศีล ตัดกิเลสก่อน จึงจะได้เห็นของลับนี้  รับรองน่าดู น่าชม สวยสดงดงาม กว่านางงามจักรวาลอีก  แต่มันติดตรงตัดกิเลส ตัดขอลสวยของงาม ของอร่อยทั้งหลายทิ้งนี่สิ  มนุษย์หรือคนหรือสัตว์  จึงไม่อยากจะรู้คือ  ถ้าอย่างงั้นจะลับยังไงก็ลับไปเถอะ  เอาไว้ก่อน ฉันขอกินขอดู ขอคลำ ของที่ชอบๆก่อนเถอะ  แต่ก็มีผู้อยากรู้ที่อยากไปพบอยู่ดี น่าจะเป็นผู้ที่มีความเจริญที่จิตใจสูงแล้ว เพราะเอาเงินไปซื้อไม่ได้ รวยเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้  เพระว่าต้องเข้าไปดูเองมีอยู่ในทุกคนเหมือนกัน คือพระธรรม ในศาสนาพุทธ ตามบทสวดสรรเสริญ  คุณพระะพุทธ   พระธรรม พระสงฆ์    พระธรรมไม่มีกาลเวลา

จริงๆไม่น่าเรียกว่าของลับ น่าจะเรียกว่าสิ่งที่เข้าไม่ถึงมากกว่า  แต่ท่านว่ามีอยู่ ใครสละได้ลองดูครับ
 เพราะส่วางใสว อยู่อย่างนั้น ไม่มีอารมณ์ หรือวัตถุมาปรุงแต่ง จึงไม่รู้เอาเวลาไปวัดอะไร ใครก็แสดงให้ดูไม่ได้ ต้องทำเอาเอง ปฏิบัติเอาเอง ที่กล่าวนี่ก็ตามท่านว่ามาทั้งนั้น ไม่มีปัญญาเข้าไปดูเองหรอกครับ  เอ๊ะผมว่า ดูๆก็เเป็นของลับ ที่ลับลึกกว่าของลับชาวบ้านเยอะแยะ ต่างกับของลับแบบที่ ๑ ที่ประกอบไปด้วยกาล เพราะมีเจ้าโลกผู้ทำให้เกิด มีแหล่งให้เกิดคือโยนี ของ 2 อย่างนีมาจ๊ะเอ๊กันแล้วมีกาลทันที เพราะมีการเกิดต่อเนื่องทั้งอารมญ์ และวัตถุเล็กๆที่ค่อยๆเติบโตตามมา แม้ว่าปัจจุบันมนุษย์จะตัดตอนวัตถุตัวน้อยๆที่เกิดตามมาได้ แต่ก็มีเรื่องราวอย่างอื่นเกิดขึ้นให้มนุษย์ได้หลงใหลเพลิดเพลินแก้เซ็งได้เพื่อรับใช้กาลเวลาตั้งมากมาย อืมม ! พระเจ้า
                                                                                                           มหาปลี ณ จักรวาล




ไม่มีความคิดเห็น: